นายกฯ ย้ำ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ต้องถามประชาชนก่อนว่ารับได้หรือไม่ และผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องยอมรับกติกาด้วย

(29 ก.ย. 2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงประเด็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติล็อตแรก หลังมีกระแสข่าวเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวจากเมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ให้มาท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ว่า ต้องถามว่าจำเป็นต้องเปิดบ้างไหม เป็นกลุ่ม ๆ ได้ไหม และมีการดูแลโดยเป็นลักษณะของการนำร่องก่อนได้หรือไม่ ก็ต้องถามสังคมก่อน ถามประชาชนผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวว่ารับได้หรือไม่ ถ้ารับได้ต้องช่วยกันดูแลมาตรการถึงจะออกมาได้

แม้ว่าเราจะออกมาตรการใด ๆ มาก็ตาม แต่ถ้าประชาชนในพื้นที่ไม่ตอบรับก็จะลำบาก และคนที่เดือดร้อนก็ไม่ได้รับประโยชน์ คนที่ไม่เดือดร้อนไม่มีผลทางธุรกิจ ชีวิตเป็นปกติเขาอาจจะไม่เห็นชอบตรงนี้ แต่ประชาชนที่เหลือเราต้องนึกถึงเขาหรือเปล่า ซึ่งรัฐบาลจะหามาตรการที่เหมาะสมทั้งกลุ่มนักธรุกิจและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแบบพิเศษ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ไม่ใช่เปิดประเทศให้มีการท่องเที่ยวแต่จะมีการกำหนดจำนวนผู้ที่เดินทางเข้ามา ซึ่งทำให้สามารถควบคุมดูแลได้ มีริสแบนด์ มีแอปพลิเคชันติดตามตัว และคนในพื้นที่ช่วยกันดูแล ถ้าเราไม่คิดแบบนี้ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้สักอัน รัฐบาลก็ต้องดำเนินนโยบาย การปฏิบัติต้องทำให้เข้มงวด วันนี้หากเดินทางเข้าประเทศไทยต้องยินยอมทำตามกติกาและกฎหมายของเรา ทั้งการกักตัวในสถานที่ที่กำหนด มีการติดตามประเมินตัว เมื่อพบจุดบกพร่องก็แก้ไขในทันที อย่างร้านค้าต่าง ๆ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการก็ถูกปิดทันที แล้วต้องไปปรับปรุงแก้ไขถึงจะเปิดใหม่ได้

ส่วนมาตรการเลื่อนตั๋วเครื่องบินที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมนี้นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเรื่องของสายการบินที่จะเป็นผู้พิจารณาซึ่งรัฐไม่มีอำนาจสั่งการและที่ผ่านมาเป็นการขอความร่วมมือจากรัฐบาล ปัจจุบันการเดินทางเข้าออกประเทศส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่เดินทางเข้ามาจึงจำเป็นต้องรับกลับ ส่วนต่างชาติจะเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตทำงาน รวมถึงคณะทูต