"นายล้าน" รับทราบข้อหายักยอกทรัพย์ หลังนำมือถือของ "จารุชาติ" พยานปากคำสำคัญคดี "บอส" ไปทำลายทิ้ง อ้างกลัวกระทบลงเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ทำไป เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

กรณี นายพศิน อัคเดชธนโชติ หรือ ล้าน นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง ของนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานปากสำคัญของ บอส วรายุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ที่ขับรถยนต์ชนดาบตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ไปลบข้อมูลรูปภาพก่อนนำไปทุบทำลายและโยนทิ้งขยะ หลังนายจารุชาติประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับคู่กรณีเสียชีวิต เมื่อวันที่ 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด นายพศิน รับทราบข้อกล่าวหา "ยักยอกทรัพย์" ที่สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ และพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนย้ำว่า ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ส่วนหลังจากนี้ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของตำรวจ โดยในส่วนของตนเองไม่ได้ติดต่อกับทางญาติของนายจารุชาติ แต่อย่างใด

ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ ในฐานะคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า หลังจากผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงแล้วนั้น สรุปคร่าวๆ ได้ว่าตำรวจนั้นเป็นฝ่ายผิด เพราะทุกอย่างที่ตำรวจกระทำนั้นไม่มีในสำนวน แต่ทางอัยการดำเนินการตามสำนวนทุกประการ

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าคณะกรรมาธิการจะใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการการกฎหมาย (กมธ.) กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร เข้าชี้แจงอีกครั้ง เชื่อว่า ภายในสัปดาห์หน้าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นทั้งหมด

ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า คดีบอส มีการร้องขอความเป็นธรรม รวมทั้งสิ้น 14 ครั้ง โดย 13 ครั้งแรก แป้ก (ยุติเรื่อง) มาปัง (ได้ผล) เอายุคของรองอัยการสูงสุดชื่อ นายเนตร นาคสุข ต่อมายังได้เรียกพยานมาสอบเรื่องความเร็วก็ได้ผล

เรื่องนี้จึงอยู่ที่ดุลยพินิจของใคร จะเห็นอย่างไร แม้ว่าจะยืนยันอยู่อย่างเดียวว่า “ทุกเรื่องอยู่ในสำนวน ไม่ได้พิจารณานอกสำนวนแต่อย่างใด”

จริงๆ น่าจะบอกไปเลยว่า อัยการคนอื่นใจไม่ถึงเท่ากับรองเนตร นาคสุข ที่ท่านกล้า “สั่งไม่ฟ้อง” ต้องยอมรับว่าท่าน ใจถึงพึ่งได้ ของแท้ แน่นอน