พระสังฆาธิการแจง มติคณะสงฆ์สั่งตำหนิโทษเจ้าอาวาสวัดโคศุภราชถูกต้อง หลังถูกร้องเรียน 4 ครั้งติดต่อกัน เผยเป็นโทษสถานเบา และสามารถยกเลิกได้ พร้อมเตรียมทำหนังสือเตือนให้เลิกขังตัวเอง เพราะไม่เหมาะสม

หลังพระครูปลัดวิชาญ คำภีรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช ต.คลองวัว อ.เมือง จ.อ่างทองขังตัวเองไว้ในกรงสุนัขบริเวณข้างพระอุโบสถภายในในวัด เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกพระสังฆาธิการสั่งตำหนิโทษ เป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากถูกร้องเรียนว่า เปิดธรรมมะเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับพระครูกิตตยาภินันท์ เจ้าคณะตำบลมหาดไทย ซึ่งเป็นพระสังฆาธิการปกครอง เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว โดยพระครูกิตตยาภินันท์ได้นำเอกสารการร้องเรียน และบันทึกการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ

โดยในหนังสือบันทึกการร้องเรียน มีการลงชื่อคณะกรรมกา รที่ประกอบด้วยเจ้าคณะอำเภอเมืองอ่างทอง รองเจ้าคณะอำเภอเมืองอ่างทอง เจ้าคณะตำบลมหาดไทย และเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองอ่างทอง รวมถึงมีการเซ็นรับทราบของพระครูปลัดวิชาญ คำภีรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช

พระครูกิตตยาภินันท์ เปิดเผยว่า กรณีเจ้าอาวาสวัดโคศุภราช มีเรื่องร้องเรียนในเรื่องของการเปิดเสียงสวดมนต์ผ่านเครื่องขยาย ในขณะที่วัดไม่มีการจัดงาน ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 น.จนถึง 21.00 น.ทุกวัน จนทำให้ประชนที่อยู่บริเวณรอบวัด ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียง ร้องเรียนตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นครั้งแรก ซึ่งคณะกรรมการสงฆ์ ก็ได้เชิญท่านเจ้าอาวาสมาแก้ไขปัญหา

ต่อมา ก็มีการร้องเรียนในครั้งที่ 2 และ 3 ตามมาอีก ซึ่งทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ได้เชิญเข้าอาวาสมาชี้แจงไปอีกครั้ง และให้แนวทางว่า จะแก้ไขปัญหาอย่างไร

จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนสิงหาคม มีการร้องเรียนเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งทางคณะปกครองก็ได้ให้คณะพระสังฆาธิการเข้าไปพูดคุย ซึ่งทางเจ้าอาวาสก็ยอมรับว่า เรื่องที่ร้องเรียนก็ยังมีผลถึงปัจจุบัน ทางคณะกรรมการโดยเจ้าคณะอำเภอ ก็ได้แจ้งว่า มีการร้องเรียนมา 4 ครั้งแล้ว ต้องมีบทลงโทษ เพราะเป็นการร้องในเรื่องเดิมๆ ที่ทางเจ้าอาวาสมาแก้ไข

เมื่อปรึกษาหารือกัน ก็มีมติของที่ประชุมที่ต้องลงโทษในการละเมิดจริยา หรือในทางโลก ก็คือ ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยการสั่งให้ตำหนิโทษ เพราะไม่ใช่เป็นการร้องเรียนครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 4 แล้ว หลังจากมีการตักเตือนกันหลายครั้ง แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ จึงต้องสั่งลงโทษในการละเมิดพระสังฆาธิการ ซึ่งมีด้วยกัน 4 ระดับคือ 1ถอดถอนออก 2.ปลดออก 3.ตำหนิโทษ และ 4 .ภาคทัณฑ์

ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ลงโทษข้อ 3.ก็คือตำหนิโทษ ซึ่งเนื้อหา ก็คือโทษนี้ จะมีระยะเวลา 3 ปีแต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องอยู่ 3 ปี หากท่านเจ้าอาวาส ทำคุณงามความดี ก็สามารถที่จะลบล้างความผิดได้ ตามระยะเวลาที่เหมาะสม

ส่วนกรณีที่เจ้าอาวาสขังตัวเองในกรงสุนัข เพื่อประท้วง เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะจริงๆ แล้ว มีกฏของมหาเถรสมาคมอยู่ว่า ถ้าพระภิกษุรูปใด ไม่ได้รับความยุติธรรมในการพิจารณาโทษ สามารถทำเรื่องขึ้นมาแย้งตามลำดับการปกครอง  เบื้องต้นทางพระผู้ใหญ่ได้ให้คำปรึกษาว่า ในฐานะที่อาตมาเป็นพระผู้ปกครองก็ต้องทำเรื่องให้ทางเจ้าอาวาสวัดโคศุภราช หยุดการกระทำเช่นนี้ เพราะมีกฎของมหาเถระสมาคมที่จะสามรถแย้งได้อยู่แล้ว