เดือดอีก! ภาคี นศ. ศาลายา จุดไฟเผารูป "ประยุทธ์-ประวิตร" หน้าทำเนียบ ลั่น! เผาสิ่งชั่วร้ายออกจากบ้านเมือง เรียกร้องรัฐบาลลาออก-ยุบสภา พร้อมร่าง รธน.ใหม่

(24 ก.ค. 2563) ภาคีนักศึกษาศาลายา รวมตัวที่บริเวณศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำกิจกรรม เผารูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงรูปของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่าเผาสิ่งชั่วร้ายออกจากบ้านเมือง พร้อมเรียกร้องให้มีการลาออก และยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 150 นาย ตำรวจนครบาล 2 กองร้อย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่ตรึงกำลังบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และผู้ชุมนุมด้วยตนเอง

พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้พูดคุยชี้แจงกับผู้ร่วมชุมนุมเพื่อทำความเข้าใจถึงขอบเขตของการชุมนุม เนื่องจากการเคลื่อนไหวการชุมนุมของนักศึกษาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ประเมินกำลังผิดพลาดจึงทำให้มีเจ้าหน้าที่มาน้อย ครั้งนี้จึงเป็นการเตรียมความพร้อมเพราะมีการเคลื่อนไหวมายังทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้ประสานแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมให้เคลื่อนไหวและแสดงออกบริเวณฝั่ง กพ. แทน

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มกิจกรรม ภาคีนักศึกษาได้อ่านแถลงการณ์โดยมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อคือ
1.การบริหารงานของรัฐบาลทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนเอารัดเอาเปรียบประชาชน
2.ไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้
3.บริหารงานผิดพลาดจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
4.ไม่มีการเยียวยาหรือประกันรายได้คนว่างงาน
5.ปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงโดยมีการอุ้มฆ่าสูญหายไปถึง 9 ราย รวมถึงทำร้ายนักกิจกรรม จึงเป็นอาชญากรรมแห่งรัฐ ใช้กฎหมายคุกคามประชาชน หากปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปจะทำให้เศรษฐกิจพัง ประชาชนทุกข์ยาก จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกทันทีและยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด

สำหรับการเผารูปของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเจรจาไม่ให้เผา เนื่องจากเป็นห่วงกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาได้ พร้อมทั้งแนะนำให้มีการยื่นเรื่องต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลแทนการทำกิจกรรม