68 วันแล้ว สำหรับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วน้องเสียชีวิตเอง หรือมีใครทำให้น้องเสียชีวิต แล้วจะเป็นไปได้หรือไม่ที่น้องจะขึ้นเขาไปเอง แล้วถอดเสื้อผ้าเองเพราะอากาศร้อนแล้วเสียชีวิต แล้วเสื้อน้องหายไปไหน นี้คือสิ่งที่ตำรวจต้องการคำตอบให้ได้ !! ล่าสุด ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปทำการสาธิตว่าวัวจะกินเสื้อได้จริง ตามคำบอกเล่าชาวบ้านหรือไม่

ชาวบ้านมีการพูดถึงเสื้อของน้องชมพู่ ที่หายไปว่า เสื้อของน้องอาจจะถูกวัวที่ชาวบ้านนำไปปล่อยให้ขึ้นเขาไปหาของป่ากินไปแล้วก็เป็นได้

คุณพนิตนาฏ พรหมบังเกิด ผู้สื่อข่าวช่อง 8 จึงสอบถาม น้าแต น้าของน้องชมพู่ ที่เป็นคนเลี้ยงวัว เล่าว่า วัวสามารถกินเสื้อได้จริง ๆ เพราะในเสื้อผ้าของคนที่ถูกทิ้งหรือ ตกไว้ในป่า จะมีความเค็มของเหงื่อ มันจะคล้าย ๆ กับเกลือ แต่วัวไม่มีทางจะจะกลืนเสื้อผ้าลงไป มันจะแค่เคี้ยว ๆ เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวช่อง 8 จึงลองนำเสื้อผ้าผู้ใหญ่ เก่า ๆ ที่ผ่านการใช้งานแล้ว ไปให้วัวของชาวบ้านลองกิน ปรากฎว่าวัวเคี้ยวตรงบริเวณด้านหน้าของกางเกงที่มีโคลนติดอยู่ และด้านหลังกางเกง เพราะมีกลิ่นของเหงื่อ และความเค็มของเหงื่อติดอยู่ แต่วัวไม่กลืนลงไปตรงตามที่น้าแตบอกจริง

นั่นแปลว่า วัวสามารถเคี้ยวเสื้อผ้าได้จริง ๆ แต่อยู่ที่ขนาดของเสื้อผ้าว่ามีขนาดใหญ่หรือเล็ก ที่วัวจะสามารถกลืนเข้าไปได้

ขณะที่นายพรานเด่น พาทีมข่าวจำลองทางขึ้นเขา ซึ่งเป็นเส้นทางที่ง่าย และสามารถเดินขึ้นไปได้เองถึงจุดที่พบศพน้องชมพู่ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

พรานเด่น เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ที่เป็นนายพรานมากว่า 30 ปี เชื่อว่าน้องชมพู่สามารถเดินขึ้นไปบนเขาเองได้ เพราะเด็กมีร่างกายที่แข็งแรง สามารถเดินไปได้เรื่อย ส่วนเสื้อน้องที่ยังเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าหายไปไหนนั้น ต้องบอกว่าหลังจากที่น้องหายตัวไป 1 วัน ชาวบ้านก็ได้ปล่อยวัวขึ้นไปหาของกินตามปกติ เชื่อว่าวัวน่าจะกินเสื้อของน้องไป

ขณะที่วันนี้มีชาวบ้านจากจังหวัดนครพนม เดินทางมาเยี่ยมลุงพลและป้าแต๋น เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ เช่นเดีนวกับบ้านแม่ที่มีชาวบ้านจากจังหวัดกาฬสินธุ์มาค่อยให้กำลังใจไม่ขาดสาย 

ช่อง 8 ไขข้อข้องใจ วัวกินเสื้อ "น้องชมพู่"