นายสันติ ไชยมหา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมด้วย แกนนำชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไชยบุรี นำเอกสารหลักฐาน เข้าร้องทุกข์กับ นายวุฒิชาติ บุญเจนวรกิจ นายช่างโครงการก่อสร้างพัฒนาทางหลวงเพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ช่วงโครงการก่อสร้าง ทางหลวงหมายเลข 212 สาย อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน ตอน ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สำนักก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวง เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน

กรณีมีการออกแบบ จุดกลับรถในโครงการก่อสร้าง มีระยะทางห่างจากชุมชน กว่า 3.5 กิโลเมตร รวมระยะทางไปกลับ ยาวกว่า 6 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมา และเพิ่มระยะเวลาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงสร้างปัญหาความเดือดร้อน ในการเดินทางของชาวบ้านในพื้นที่โดยเรียกร้องให้ทางโครงการ ดำเนินการแก้ไข เร่งด่วน เนื่องจากอยู่ในช่วงดำเนินโครงการ เพราะหากดำเนินการตามแบบ จะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในพื้นที่ พร้อมนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ แก้ไขปัญหาในจุดที่จะทำการแก้ไข

นายสันติ เผยว่า จากการตรวจสอบ หากขับรถออกจากชุมชน ช่วง ต.ไชยบุรี จะมีระยะทางไปกลับไกลถึง 3.5 กิโลเมตร ไปกลับรวม กว่า 6 กิโลเมตร ถือว่าไม่เหมาะสม ซึ่งก่อนนี้ กรมทางหลวง เคยลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นก่อนก่อสร้าง แต่ชาวบ้านไม่เข้าใจ เกี่ยวกับการออกแบบ จนมีการก่อสร้าง จึงเห็นรูปแบบชัดเจน และพิจารณาแล้วว่า จะสร้างปัญหาความเดือดร้อนตามมา จึงได้มาเสนอปัญหากับนายช่างผู้ควบคุมโครงการ เพื่อเสนอกรมทางหลวง ดำเนินการแก้ไข 

โดยเสนอให้ มีการเปิดจุดกลับรถในพื้นที่ ต.ไชยบุรี เพราะเป็นพื้นที่ใกล้กับชุมชนหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน ที่จะต้องสัญจรไปมา ซึ่งเรียกร้องให้เปิดจุดกลับรถ บริเวณใกล้กับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 237 เพราะเป็นจุดเชื่อมกับชุมชน อีกจุดคือ บริเวณเยื้องกับ อบต.ไชยบุรี เพราะมีความเหมาะสม สำหรับการเดินทางระหว่างชุมชน ไม่ให้ไกลเกินไป เพราะหากดำเนินการตามแบบกรมทางหลวง ปัญหาความเดือดร้อนตามมาแน่นอน

นายวุฒิชาติ บุญเจนวรกิจ นายช่างโครงการก่อสร้างพัฒนาทางหลวงเพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ เผยว่า สำหรับโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงหมายเลข 212 สาย อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน ตอน ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ต.พะทาย ต.ไชยบุรี ระยะทางรวมกว่า 30 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้างกว่า 1,200 ล้านบาท เริ่มดำเนินการตามสัญญา ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 รวมระยะเวลา 1,080 วัน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง กว่า 50-60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก่อนก่อสร้าง ยืนยันว่า ได้ มีการสำรวจความคิดเห็นชาวบ้าน ตามขั้นตอน แต่อาจมีปัญหาเรื่องความคลาดเคลื่อน ชาวบ้าน ยังไม่เข้าใจในรูปแบบ พิกัดการก่อสร้าง

แต่หลังชาวบ้านมานำเสนอปัญหาความเดือดร้อน เรื่องจุดกลับรถ ทางโครงการ จะได้ มีการนำเสนอกรมทางหลวง และผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไข ตามความเหมาะสม ซึ่งทางโครงการ ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนเป็นหลัก โดยเส้นทางดังกล่าวเมื่อแล้วเสร็จจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ในพื้นที่ และประชาชนได้รับความสะดวกในการสัญจรไปมา แต่หากมีผลกระทบยินดีที่จะรับทราบปัญหา และทำการแก้ไขตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามเรื่องจุดกลับรถถือว่า เป็นปัญหาสำคัญ ทางโครงการจะได้เร่งแก้ไขต่อไป ฝากถึงประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงนี้ให้ระมัดระวัง ช่วงการก่อสร้าง งดใช้ความเร็ว และระมัดระวังในช่วงกลางคืน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง.