ตำรวจกองปราบออกหมายเรียกภรรยาพันตำรวจโทบรรยินให้ปากคำ เพื่อสอบปากคำเรื่องการวางแผนแหกคุก ขณะที่ภรรยาพันตำรวจโทบรรยินยืนยันไม่รู้จักลูกน้องของสามี และไม่เคยโอนเงินให้ทนายดำเนินการ

นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ เข้่าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปรามตามหมายเรียก เพื่อให้ปากคำ หลังตำรวจพบเส้นทางการเงินว่านางวราภรณ์เป็นผู้โอนเงินให้กับนายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความที่ประสานประกันตัวให้นายโจ

โดยสอบปากคำ นานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนที่ นางวราภรณ์ จะออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่ิอข่าว ระบุว่า ตนมาให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น ยืนยันว่าทุกอย่างที่พูดกับตำรวจเป็นความจริง ส่วนที่ นายณัฐพล หรือท็อป นรการ หนึ่งในอดีตผู้ต้องหา ที่เคยอยู่ในเรือนจำแดนเดียวกันกับสามี ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนกับนายวรภัทร์ ลูกชาย ตามที่ลูกชายเคยให้ข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น ยืนยันว่า นายท็อปไม่ใช่เพื่อนหรือแม้แต่อยู่กลุ่มเดียวกันกับลูกชาย และไม่เคยกินข้าวกับลูกชายเเม้เเต่ครั้งเดียว

ส่วนนายสุธน หรือโจ ทองศิริ อดีตนักโทษที่ระบุว่าสามีใช้ให้มาช่วยชิงตัวประกันนั้น ตนก็ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยโอนเงินให้ทนายกรณ์ เพื่อช่วยประกันตัวนายโจแต่อย่างใด การเข้าพบตำรวจครั้งนี้ส่วนตัวไม่มีอะไรที่น่าหนักใจตั้งแต่ก่อนมาให้ปากคำแล้ว รายละเอียดขอไม่พูด ให้ไปถามจากตำรวจ

ด้านพันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า นอกจากนางวราภรณ์แล้ว ยังเหลือนายณัฐพล ที่เคยถูกคุมขังร่วมกับพ.ต.ท.บรรยินในเรือนจำ และภรรยาของนายณัฐพล ที่ออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้การยืนยันความเชื่อมโยงแผนการแหกคุก และรายละเอียดอื่นๆ ซึ่งทั้งสองคน เป็นพยานชุดสุดท้ายที่จะเรียกมาให้ข้อมูล ส่วนความคืบหน้าในการแจ้งข้อกล่าวหากับพ.ต.ท.บรรยิน เหลือเพียงรอเอกสารธนาคารหลายแห่ง เพื่อนำมาตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยคาดว่าจะได้ข้อมูลภายในสัปดาห์นี้ทั้งหมด จากนั้นเมื่อตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานเสร็จเรียบร้อย จะนำข้อมูลทั้งหมดไปแจ้งข้อกล่าวหากับพ.ต.ท.บรรยินอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ให้การสนับสนุนแผนการชิงตัวนั้น ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานตรวจสอบความชัดเจน