อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา วิเคราะห์คดีน้องชมพู่ เผย ตำรวจอาจจะต้องขอเข้าสู่ขั้นตอนงดการสอบสวน หลังรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำจนครบถ้วน แต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้

(26 มิ.ย. 2563) คดีน้องชมพู่ ที่สังคมกำลังจับตามองและสื่อมวลชนให้ความสำคัญ ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนคดีนี้มานาน 1 เดือนกว่าแล้ว แต่ทิศทางคดียังไม่มีความชัดเจน ยังไม่สามารถออกหมายจับบุคคลใดได้ ผู้สื่อข่าวช่อง 8 คุณนฤชา กมุทโยธิน สอบถามความคิดเห็นคดีนี้กับ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาธนบุรี สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งได้วิเคราะห์ว่า คดีนี้อาจจะต้องใช้เวลาหลายปี เพราะตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด

คำตอบของคดีนี้คือการสืบจากศพเป็นอันดับแรก แต่เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุ สภาพศพ และระยะเวลากว่าเจ้าหน้าที่มาพบศพผ่านมาหลายวัน ทำให้หาพยานหลักฐานจากตัวศพค่อนข้างยาก ตำรวจจะต้องแกะให้ได้ว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงเกิดจากอะไร โดยเชื่อว่าคดีนี้ตำรวจไม่จับแพะแน่นอน เพราะสังคมกำลังจับตามอง แต่มีความเป็นไปได้ว่าตำรวจจะของดการสอบสวนไว้ก่อน และรอจนกว่าจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมค่อยสอบสวนต่อ

"ถ้าสอบสวนแล้วยังไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิด และสอบไปจนครบถ้วนแล้ว คดีธรรมดา 3 เดือน ถ้าสอบแล้วไม่ได้ผลก็ของดการสอบสวนไปก่อน ไม่ใช่เลิก แต่งดชั่วคราวเพื่อไปทำงานอื่น ถ้าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ก็อาจจะสอบถึง 6 เดือน ถ้ายังไม่ได้ผลเลยก็จะหยุดไว้ก่อน สำนวนนั้นก็คือของดการสอบสวน แต่ยังไม่ได้สั่งอะไร รอเก็บไว้จนกว่าจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมค่อยสอบต่อได้"

สำหรับคดีนี้ นายปรเมศ ระบุว่า เห็นความพยายามของตำรวจในการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำอย่างรอบด้าน และทำแม้กระทั่งการจำลองเหตุการณ์ตามคำให้การของพยาน เชื่อว่าตำรวจมีบุคคลต้องสงสัยในใจแล้วแต่ยังไม่สามารถออกหมายจับได้ เนื่องจากต้องรอพยานหลักฐานให้มากเกินกว่าร้อยละ 50 พร้อมขอแสดงความคิดเห็นกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่ตามติดมากจนเกินไปทำให้ประเด็นแนวทางการสอบสวนแตกไปไกล