ผู้เสียหายถูกตำรวจเรียกรับเงินแลกกับการไม่ดำเนินคดีหลังถูกเรียกตรวจพบสารเสพติด ร้องเรียนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ดำเนินคดี ขณะที่มีคำสั่งย้าย 4 นายตำรวจ สน.ท่าพระ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

นายกิตติศักดิ์ ชูเพียร ผู้เสียหายที่ ถูกตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท่าพระ เรียกตรวจแล้วพบเสพยาเสพติด พร้อมทนายความ เข้าพบ พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจประจำด่านที่ร่วมกันเรียกรับเงิน 30,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี

ผู้เสียหาย ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยเสพยาเสพติด และไม่ได้รับยาที่ทำให้ตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ วันเกิดเหตุขณะขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจ ตำรวจเรียกตรวจค้นและขอเก็บปัสสาวะผลตรวจพบว่า มีสารเสพติด เมื่อไปตรวจผลที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งก็พบมีสารเสพติดอีก ตำรวจจึงจะดำเนินคดีและเรียกเงิน 30,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอมจ่ายเงิน ฝ่ายตำรวจจึงพยายามลดจำนวนเงินเหลือ 20,000 บาท สุดท้ายลดให้เหลือ 15,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว จึงจ่ายเงินไปเพื่อตัดปัญหา แต่เมื่อไปตรวจภายหลังกลับไม่พบสารเสพติด

ด้าน นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า จะดำเนินคดีกับตำรวจที่ร่วมก่อเหตุ และอาสาสมัครตำรวจที่รู้เห็นใน 3 ข้อกล่าวหา คือกักขังหน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์ และกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา

ขณะที่ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า วันนี้จะให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายยืนยันผลที่โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้ง และมีคำสั่งให้ตำรวจ 4 นาย ที่อยู่ในวันเกิดเหตุให้ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ชายอ้างถูก สน.ท่าพระ กล่าวหาว่าฉี่ม่วง เข้าร้อง ผบช.น.