ผู้นำฝรั่งเศสใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด สั่งห้ามประชาชนออกจากบ้าน 15 วัน ยกเว้นมีเหตุจำเป็น เพื่อหวังชะลอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสองเท่าทุกๆ สามวัน

นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แถลงผ่านทางโทรทัศน์เมื่อ 16 มี.ค.63 ถึงมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเขาพร้อมประกาศสงครามกับโรคโควิด-19 ด้วยการสั่งปิดประเทศ และห้ามประชาชนออกจากบ้านเป็นเวลา 15 วัน ยกเว้นมีเหตุจำเป็น เช่น ออกไปซื้ออาหาร ไปทำงาน หรือต้องพบแพทย์ โดยจะมีการวางกำลังตำรวจราว 100,000 นาย คุมเข้มตั้งด่านตรวจ และลงโทษสถานหนักผู้ที่ฝ่าฝืน ขณะที่กองทัพจะต้องส่งกำลังเข้าช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตามโรงพยาบาล

ก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสได้สั่งปิดร้านอาหาร บาร์ โรงเรียน และจำกัดนักท่องเที่ยวที่จะไปพักที่สกีรีสอร์ต เพื่อหวังลดจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ดูเหมือนมาตรการที่ใช้จะยังไม่เพียงพอที่จะควบคุมการแพร่ระบาดได้ เนื่องจากยังพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่าในทุกๆ 3 วัน อยู่ที่กว่า 6,600 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่เกือบ 150 ศพแล้ว และยังพบว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงมีประชาชนบางส่วนไม่สนใจคำเตือน ไปพบปะรวมตัวกันตามสวนสาธารณะจำนวนมาก

นอกจากนี้ ผู้นำฝรั่งเศสยังสั่งเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบสองออกไปก่อน เพราะรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาก่อนเป็นอันดับแรก

ฝรั่งเศส สั่งปิดประเทศ ห้ามประชาชนออกจากบ้าน 15 วัน