กกต.ฟันอาญา "ธนาธร" ปมหุ้นวี-ลัค โทษหนักคุก 10 ปี - ตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ยืนยันพิจารณารอบคอบ

ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติให้สำนักงาน กกต. แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

กรณีรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เพราะถือหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน แต่ยังใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นการผิดมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561

หลังศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562 ตัดสินให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) จากกรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด อยู่ในวันที่ 6 ก.พ.2562

ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ต่อ กกต. โดยโทษตามมาตรา 151 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเรื่องดังกล่าว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายธนาธร สิ้นสุดลง สำนักงาน กกต.มีการเสนอเรื่องให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง แต่ที่ประชุม กกต.ให้สำนักงานฯ นำเรื่องดังกล่าวไปปรับปรุง เนื่องจากเห็นว่า การจะดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร แตกต่างจากคดีตัดสิทธิทางการเมืองที่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

โดยคดีอาญานั้น ต้องมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงเจตนาว่า ขณะที่นายธนาธรยื่นลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร รู้ว่า ตนมีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) แต่ยังคงสมัคร ดังนั้น จึงเห็นว่า พยานหลักฐานประกอบต้องมีน้ำหนัก เพราะการสู้คดีก็ต้องสู้กันถึง 3 ศาล

ทั้งนี้ การยื่นฟ้องคดีอาญานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังเหลืออีกสำนวนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต. คือเรื่องให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน 191 ล้านบาท