นายกฯให้กำลังใจหมอ-พยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 มั่นใจคุมการแพร่ระบาดได้ในปีนี้ พร้อมเร่งพัฒนาAI ติดตามกลุ่มเสี่ยง ยันล่าตัวผีน้อยมารายงานตัวครบแล้ว ผุดแนวคิดใช้เงินบริจาคจ่ายค่าเสี่ยงภัยหมอ-พยาบาล

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 และแพทย์ พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยตลอดระยะเวลาที่เกิดการระบาดในประเทศไทย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมชม ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กรมควบคุมโรค ก่อนร่วมประชุมคอนเฟอร์เรนซ์มอบนโยบายกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวภายประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์กับส่วนราชการ และหน่วยงานสาธารณสุขประจำจังหวัดว่า เป็นการชี้แจงแนวทางปฏิบัติหลังตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ในด้านการคุมเข้มคัดกรองคนที่เดินทางจากต่างประเทศ ตั้งแต่สนามบินต้นทาง ต้องมีใบรับรองแพทย์ก่อนออกตั๋วเดินทาง

จากนั้น เมื่อเข้าสู่ประเทศไทย หากพบว่า อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะต้องลงทะเบียน แอพพลิเคชั่นติดตามตัว เพื่อเฝ้าดูอาการรวมถึงคนที่ถูกกักตัวอยู่ในขณะนี้ด้วยเช่นกัน โดยทุกคนจะต้องยินยอมให้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว คาดว่า จะเริ่มทดลองใช้แอพพลิเคชันได้ในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามแต่ละจังหวัด เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาด และปริมาณหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ โดยเฉพาะในสถานพยาบาลว่า เพียงพอหรือไม่ ซึ่งทุกจังหวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ส่วนกรณีแรงงานไทยที่ไปทำงานทำผิดกฎหมาย ตายในประเทศเกาหลีใต้หรือผีน้อย นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ขณะนี้สามารถตามตัวมาลงทะเบียนครบหมดแล้ว เชื่อว่า ไม่มีปัญหา สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมขอร้องว่า อย่าหลบหนีอีก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยี่ยมให้กำลังใจงานผู้ปฏิบัติงานในวันนี้ ทำให้เห็นถึงความตั้งใจของทุกคน มั่นใจว่า ประเทศไทยจะผ่านสถานการณ์นี้ ไปได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ซึ่งตนได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ทั้งในส่วนของหน้ากาก และความเสี่ยงจากปฏิบัติงาน

โดยอาจแบ่งเงินที่รับบริจาคมาใช้เป็นค่าเสี่ยงภัยให้กับเจ้าหน้าที่ตามหลักเกณฑ์ เหมือนกับสถานการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา

ส่วนหลังจากนี้ ต้องทำมาตรการที่เหมาะสมมาดำเนินการตามลำดับ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมของบุคคลที่ต้องใช้ ผู้ที่ไม่ติดเชื้อสามารถใช้หน้ากากผ้าแทนได้ เนื่องจากความสามารถการผลิตมีจำนวนจำกัด ไม่เกิน 38 ล้านชิ้นต่อเดือน เพราะวัตถุบางอย่างรับมาจากประเทศจีน

ส่วนการประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอก แต่เชื้อไวรัสเหล่านี้ กลัวความร้อน และขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว จึงหวังว่า การแพร่ระบาดจะลดลง

แต่จะให้ประกาศว่า จะหยุดเมื่อไรคงไม่ได้ สิ่งสำคัญคือการควบคุมการแพร่ระบาด และความเข้มแข็งในการดูแล แต่หากมีการให้ข้อมูลบิดเบือน นอกจากไม่มีอะไรดีขึ้น ยังทำให้เกิดโรคใหม่ ก็คือ ความขัดแย้งตามมา