'สี จิ้นผิง' โอด 'โควิด-19' วิกฤตใหญ่สุดของจีน เผยเศรษฐกิจพังแต่ยังคุมได้

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนยอมรับว่า โรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ซึ่งแพร่ระบาดอย่างหนักและคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 2,400 รายนั้น เป็นเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุด เป็นการระบาดที่รวดเร็วที่สุด มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ยากต่อการควบคุมและป้องกันมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 นี่คือวิกฤตการณ์และเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งสำหรับพวกเรา

ประธานาธิบดีสีกล่าวต่อไปว่า จีนจะต้องเรียนรู้ความผิดพลาดเพื่อปรับปรุงความสามารถในการรับมือกับวิกฤตในอนาคต อย่างไรก็ดี ขอย้ำว่าคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ประเมินการระบาดได้อย่างแม่นยำ การจัดงานทุกอย่างเป็นไปอย่างทันการ และมาตรการที่ใช้มีประสิทธิภาพ ผลการควบคุมและป้องกันได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและระบอบสังคมนิยมแบบจีนมีข้อดีอย่างโดดเด่น

สำหรับเป้าหมายยุทธศาสตร์สูงสุดสองประการของประเทศคือ หนึ่งจะต้องจำกัดการรระบาดอย่างเด็ดขาด เพิ่มอัตราการรักษาและการหาย ลดอัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิตอย่างได้ผลในมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่น สองจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้โรคระบาดมาถึงกรุงปักกิ่ง เสริมสร้างการป้องกันและควบคุมร่วมกันในภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย และตัดขาดแหล่งการติดเชื้อให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ทั้งนี้ สียอมรับว่า โรคติดต่อครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างค่อนข้างใหญ่ต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ แต่ผลกระทบจะอยู่ในระยะสั้นและสามารถควบคุมได้ โดยเป็นที่คาดหมายกันว่าจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่ออัตราเติบโตของจีดีพีในช่วงไตรมาสแรก และรัฐบาลจะใช้นโยบายการเงินเชิงรุกมากขึ้น