รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันจากการตรวจสอบพฤติกรรมจ่าคลั่งกราดยิง ไม่พบว่ามีพฤติกรรม จับตัวประกัน หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า สาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพราะคนร้ายนำโทรศัพท์มือถือของตัวประกันมาดูการรายงานสดของสื่อฯ

กรณีเหตุคนร้ายกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก และมีการกล่าวถึงประเด็นนี้ ว่าสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพราะผู้ก่อเหตุจับคนในห้างเป็นตัวประกัน และใช้โทรศัพท์มือถือของตัวประกัน ดูการถ่ายทอดสดจากสื่อต่าง ๆ พร้อม ๆ กันหลายช่อง จนสามารถจะหลบเลี่ยงการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ได้ และทราบที่หลบซ่อนของผู้ประสบเหตุ ก่อนจะตามไปยิงจนเสียชีวิตหลายราย จนมีการตั้งคำถามถึงการรายงานข่าวของสื่อมวลชนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

ทีมข่าวช่อง 8 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ พลตำรวจตรี ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผูบัญชาการการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่าจากพฤติกรรมของจ่าคลั่ง พบว่า ระหว่างก่อเหตุ 17 ชั่วโมง โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 จ่าคลั่งไม่ได้มีพฤติกรรมในลักษณะของการจับตัวประกันระหว่างที่ก่อเหตุ แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เป็นพื้นที่ปิด ผู้ก่อเหตุไม่สามารถที่จะหาทางออกได้ และประชาชนที่วิ่งหนีเข้าไป ก็ถูกล็อคอยู่ในห้อง ไม่สามารถออกมาได้ จึงไม่ใช่เรื่องของการจับตัวประกันอย่างแน่นอน แต่จากพฤติกรรมทั้งหมดที่ปรากฎ เข้าข่ายเรื่องของ Active Shooter หรือการกราดยิงทุกคนที่พบเห็นมากกว่า และคนที่มีพฤติกรรม Active Shooter จะมุ่งประสงค์ต่อชีวิตอยู่แล้ว

รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยด้วยว่า หลังจากที่ผ่านเหตุโศกนาฎกรรมที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดทำโครงการที่จะเข้าไปสอนเด็กนักเรียนในโรงเรียน ขั้นตอนและวิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์กราดยิง และในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการเชิญ เจ้าหน้าที่จากหน่วยสืบสวนคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา หรือ FBI เข้าไปฝึกสอน การปฏิบัติงานในสถานการณ์เหตุกราดยิง ให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของไทยด้วย

รองผบช.ก.ยัน "จ่าคลั่ง"ไม่ได้จับตัวประกัน ตามที่มีกระแสข่าว