กรรมาธิการ ป.ป.ช. เรียก ส.ป.ก. แจงการดำเนินการที่ดินของ "ปารีณา" 682 ไร่ ย้ำไม่มีโทษตามกฎหมาย ส.ป.ก. เพราะเจ้าตัวส่งคืนหมดแล้ว

คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานพิจารณา คำร้องของ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ขอให้ตรวจสอบกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. 682 ไร่ โดยกรรมาธิการส่วนใหญ่ อาทิ นายวิทยา ทรงคำ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ, พล.ต.อ.วิชิต สาทรานนท์ ผู้ชำนาญการ สอบถามถึงสถานะของที่ดินที่ถืออยู่ ขณะที่ นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะกรรมาธิการ จากพรรคอนาคตใหม่ สอบถามถึงบทลงโทษกรณีถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ไม่เป็นไปตามกฎหมาย

ส่วน นายไพบูลย์ นิติตะวัน กรรมาธิการจากพรรคพลังประชารัฐ กำชับเรื่องการสำรวจพื้นที่ว่าอาจไม่ได้รุกล้ำไปที่ป่าสงวน แต่อาจรุกล้ำเขตที่ประชาชนสามารถถือครองก็ได้ พร้อมมองว่ามีการดำเนินการเรียกคืนที่ดินกรณี น.ส.ปารีณา รวดเร็วกว่ากรณีประชาชนหรือ ส.ส.คนอื่นๆ

ขณะที่ พันจ่าเอกประเสริฐ มาลัย รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ชี้แจงถึงคุณสมบัติผู้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ต้องเป็นเกษตรกรจริง หรือเป็นผู้ที่ประสงค์จะทำเกษตรกรรมที่เรียนจบด้านการเกษตรโดยตรง หรือเป็นบุตรหลานของเกษตรกรที่มีฐานะยากจน ซึ่งเบื้องต้น น.ส.ปารีณา ได้ส่งคืนที่ดินที่เป็น ส.ป.ก. ครบหมดแล้ว และจะมีการสำรวจว่าทรัพย์สินในที่ดินใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ หากใช้ประโยชน์ได้ ส.ป.ก. ก็จะรับไว้ หากใช้ประโยชน์ไม่ได้ก็จะส่งคืนให้ น.ส.ปารีณา ทำลายต่อไป

นอกจากนี้ นายนภดล ตันติเมฆิน ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ส.ป.ก. ชี้แจงด้วยว่า การถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย หากส่งคืนกลับให้ ส.ป.ก. ก็ถือว่าตรงตามเจตนารมณ์แล้ว เพื่อให้ ส.ป.ก. จัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรต่อไป ไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย ส.ป.ก. เว้นแต่จะมีความผิดในที่ดินตามกฎหมายอื่นๆ พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการเรียกคืนที่ดิน ส.ป.ก. ดำเนินการมาตรฐานเดียวกันทุกกรณีไม่แตกต่างกัน

ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ถามรองเลขาธิการ ส.ป.ก. ว่าได้ไปพบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมกับเลขาธิการ ส.ป.ก. และอธิบดีกรมป่าไม้ หรือไม่ โดยรองเลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวย้ำว่า ไม่ได้ไปพบรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ หลังการพิจารณากรณีที่ดิน ส.ป.ก. เสร็จสิ้น ที่ประชุมมีมติร่วมกันให้ทำหนังสือสรุปการชี้แจงส่งไปถึง นายวีระ สมความคิด ในฐานะผู้ร้อง ขณะที่ น.ส.ปารีณา ในฐานะผู้ถูกร้อง ไม่ได้ชี้แจงข้อมูลใดๆ ตลอดการประชุม.