เรื่องราวการฟ้องร้องกันในครอบครัวอาม่าฮวย ที่อ้างว่านางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวคนเล็ก ยักยอกเงินไปจำนวนกว่า250 ล้านในช่วงที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเมื่อปี2557 ล่าสุดครอบครัวออกมาโชว์หลักฐาน ยืนยัน อาม่าสามารถเขียนชื่อตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องปั๊มลายนิ้วมือเบิกถอนเงิน

เรื่องนี้เริ่มตั้งแต่ 19 พฤศจิกายน ที่ฝ่ายของอาม่าฮวย ศรีวิรัตน์ เดินทางมาฟ้องร้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นเงินที่ถูกยักยอกบวกกับดอกเบี้ยจากนางมาวดี ศรีวิรัตน์ โดยให้นางสาวมินตรา หลานสาว เป็นผู้รับมอบอำนาจและฟ้องร้องดำเนินคดี 

ต่อมา นางมาวดี ออกมาแถลงข่าวโต้ตอบว่าไม่เคยยักยอกเงินแม่ และไม่เคยคิดเนรคุณตามที่ถูกกล่าวหา แต่รับว่าเป็นผู้ประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารให้มาที่รพ.ที่อาม่าฮวยรักษาตัวอยู่ ในช่วงต้นปี 2557 เปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกเงิน โดยให้เหตุผลว่าบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีที่ใช้ซื้อกองทุน 

และนำมาแบ่งกับพี่ชายคนละ 30 ล้านบาทส่วนที่เหลือ นำไปใช้จ่ายในครอบครัว และเป็นค่ารักษาพยาบาลของอาม่าฮวย ยืนยันมีหลักฐานทุกอย่าง แต่ยังไม่ขอเปิดเผย อ้างต้องใช้สู้คดีในชั้นศาล 

ขณะที่วันนี้ นายมานพลูกชายคนโตของอาม่าฮวย และครอบครัวตั้งโต๊ะแถลงข่าวอีกครั้ง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผู้เป็นแม่ยืนยันว่าถูกกระทำโดยลูกสาวคนเล็กจริง และในส่วนของตัวเองนั้น ยอมรับว่า ได้รับเงินจำนวน 30 ล้านบาทจริงซึ่งเงินในส่วนนี้ อาม่าฮวยรับรู้ แต่เงินที่นอกเหนือจากนี้นั้น อาม่าฮวยไม่อนุญาตให้ใครเอาไป จึงเกิดเป็นการฟ้องร้องจนทุกวันนี้

ขณะที่นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ยืนยันหลักฐานเกี่ยวกับบัญชีของอาม่าฮวยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสเตทเม้นท์ หรือเส้นทางการเงิน เอกสารการเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกจ่ายเงินออกจากบัญชีอาม่าฮวย ซึ่งทั้งตัวนางมาวดีและธนาคารทำอย่างไม่ถูกหลัก 

ขณะที่ทางครอบครัวยืนยันว่าในช่วงปี2557ที่อาม่ารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลนั้น ยังสามารถเขียนหนังสือและเซ็นต์ชื่อได้ พร้อมตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงต้องเร่งเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกจ่ายขนาดนั้น 

โดยทนายเองก็ยืนยันว่ามีหลักฐาน ครบทุกอย่าง ที่สามารถเอาผิดกับกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหมดได้

อาม่าฮวย เปิดหลักฐาน ยันลูกสาวปลอมเอกสารเบิกถอนเงิน