"ชัยวัฒน์" มอบตัวหลังถูกออกหมายจับคดีฆาตกรรม "บิลลี่" ยันบริสุทธิ์ ตัดพ้อตกเป็นจำเลยสังคม จนแทบไม่มีที่จะยืน

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวกรวม 4 คน เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ในคดีอุ้มฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ใน 6 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และ มีอาวุธมาขู่เข็ญ ร่วมกันปล้นทรัพย์ และร่วมกันทุจริตอำพรางคดี

นายชัยวัฒน์ มีสีหน้าเคร่งเครียด ยืนยันว่า จะไม่หลบหนี ยังคงรับราชการตามปกติ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แต่มองว่าการทำคดีนี้ของดีเอสไอและสื่อ เป็นการพยายามสร้างเรื่องราวต่างๆ จนทำให้ชีวิตข้าราชการของตนและลูกน้องแทบไม่มีที่ยืนในสังคม

ทั้งเรื่องที่ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางออกหมายจับเป็นข้อหาคดีอาญา ซึ่งไม่ใช่คดีเกี่ยวข้องกับการทุจริต และตั้งข้อสังเกตว่าดีเอสไอสามารถหาหลักฐาน ถังน้ำมัน ชิ้นส่วนกระดูก จนนำไปสู่การออกหมายจับในระยะเวลาแค่ 6 เดือน ซึ่งเร็วเกินไป

ล่าสุดพนักงานสอบสวน DSI คุมตัวนายชัยวัฒน์ และพวก ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังแล้ว หลังสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยนายชัยวัฒน์ ตอบคำถามสื่อเพียงสั้นๆ ยืนยันว่าบริสุทธิ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จะไปขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล โดยใช้เอกสารรับรองจากกรมอุทยานฯมายื่นเป็นหลักทรัพย์

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังเข้าตรวจค้นในพื้นที่บริเวณไร่ชัยราชพฤกษ์ ตำบลสองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งบ้านพี่ชาย ของนายชัยวัฒน์ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยใช้กำลังตำรวจนักประดาน้ำ เรือ และ อากาศยานไร้คนขับ

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาจไปค้นหารถจักรยานยนต์ของบิลลี่ที่หายไป ซึ่งพี่ชายของนายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า ครอบครัวลิ้มลิขิตอักษร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และพร้อมต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง

ด้านพันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า จากหลักฐานที่มีทั้งหมด ทั้งพยานบุคลที่สอบไปแล้วกว่า 100 ปาก พยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานทางเทคนิค และบันทึกการใช้โทรศัพท์ เห็นชัดว่านายชัยวัฒน์ ได้จับกุมนายบิลลี่ไป แต่ไม่มีหลักฐานในการปล่อยตัว

ซึ่งนายชัยวัตน์ ไม่สามารถปฏิเสธข้อเท็จจริงนี้ได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ มีข้อมูลพบว่านายชัยวัฒน์และพวก ยังมีข้อพิพาทกับกลุ่มกะเหรี่ยงในพื้นที่ และเป็นคู่กรณีขัดแย้งกันมาตลอด และยังมีข้อมูลจากศาลปกครองให้ชดใช้บ้านของชาวกะเหรี่ยวที่เสียหายจากการถูกเผา

พันตำรวจเอกไพสิฐ ยืนยัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ได้กลั่นแกล้งผู้ใด แต่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนและพยานหลักฐานที่มี