การประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วันแรกเป็นไปด้วยความเข้มข้น ฝ่ายค้าน ไล่รัฐบาลกลับไปร่างเนื้อหามาใหม่ เพราะไม่ได้สร้างความกินดีอยู่ดี แต่กลับทุ่มเทไปด้านความมั่นคง

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท เดินหน้าต่อเนื่อง โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดอภิปราย ยืนยันว่า รัฐบาลจะใช้จ่ายเงินงบประมาณ และบริหารจัดการรายรับรายจ่ายภาครัฐอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์ และเกิดความคุ้มค่าสูงสุด

หลังจากนายกรัฐมนตรีชี้แจงงบประมาณเสร็จสิ้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน เปิดอภิปรายเป็นคนแรก กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีปัญหาในด้านความชอบธรรม ทั้งการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ การแถลงนโยบาย ไม่ได้อธิบายถึงแหล่งที่มาของงบประมาณ ไม่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะวิกฤตได้ 

ดังนั้นอยากให้ รัฐบาลนำ ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฉบับนี้ กลับไปร่างใหม่ เพราะไม่ได้สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน แต่กลับทุ่มเทไปด้านความมั่นคงและกลาโหม จึงไม่สามารถให้ความเห็นชอบได้

เช่นเดียวกับ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า นายกฯ ทำผิดรัฐธรรมนูญหลายกรรม หลายวาระ ทั้งการเลือกนายกฯ การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ถูกต้องครบถ้วน ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ขอให้อภิปรายอยู่ในกรอบระเบียบ แต่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยืนยัน เป็นการอภิปรายที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณ หากประธานฯ ไม่เปิดโอกาสให้พูด หรือไล่ออกจากห้องประชุม  ก็จะดำเนินคดีเอาผิดกับประธานฯ ทันที ทำให้ทั้งสองฝ่ายตอบโต้กันไปมา จนในที่สุดประธาน ได้เปิดโอกาสให้ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ อภิปรายต่อจนเสร็จสิ้น ไปชมบางช่วงบางตอน

ขณะที่ฝากฝั่งรัฐบาล สลับกันลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยเน้นถึงความสำคัญของงบประมาณที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน รวมไปถึงงบประมาณความเหมาะสม ที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

สำหรับกรอบเวลาการอภิปราย ฝ่ายค้านและรัฐบาลได้รับการจัดสรรเวลาฝ่ายละ 18 ชั่วโมง คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 3 วัน ไปจนถึงเวลา 21.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในการพิจารณางบประมาณที่ผ่านมา