กรมอุทยานฯ แจงเสือของกลางวัดหลวงตาบัวตาย 86 ตัว เพราะป่วยตายจากพันธุกรรม และการติดเชื้อ ยืนยันเจ้าหน้าที่ดูแลเสืออย่างเต็มที่

นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงกรณีเสือโคร่งของกลาง ที่ยึดจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี ตายไป 86 ตัว ว่า เกิดจาก โรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียง และเสือส่วนใหญ่ที่ตาย เป็นเสือที่เกิดจากการผสมพันธุ์กันเอง ทำให้มีภูมิต้านทานต่ำกว่าสัตว์ป่าปกติ 

นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า เปิดเผยว่า หลังพบว่า เสือป่วย แพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะ และผ่าตัด พบว่าเสือโคร่งที่ตายส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ไซบีเรีย ที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ในครอบครัวเดียวกัน ไม่มีภูมิคุ้มกัน รวมทั้ง เสือเครียด จากการขนย้าย ทำให้เจ็บป่วย หายใจลำบาก 

เมื่ออาการหนักมากก็ไม่กินอาหาร ชักเกร็ง และตาย นอกจากนี้ยังพบ การติดเชื้อไวรัสไข้หัดสุนัขซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ปัจจุบันยังไม่มียารักษา ทำได้เพียงรักษาตามอาการ โดยซากเสือของกลาง เจ้าหน้าที่ได้ฝังกลบโดย ไม่มีการแยกชิ้นส่วน 

เดิมทีมีพ่อแม่เสือของกลางมี 7 ตัว แต่เหลือ 6 ตัว เพราะตายระหว่างขนย้าย ผ่านมาเกือบ 15 ปี จำนวนเสือโคร่งเพิ่มขึ้นเป็น 147 ตัว ท่ามกลางการร้องเรียนจากชาวต่างชาติ เรื่องการทรมานเสือด้วยการล่ามโซ่ และยังถูกระบุเป็นแหล่งลักลอบค้าเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงใช้กฎหมายบังคับย้ายเสือโคร่งมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และเขาสน จ.ราชบุรี 

พระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปัญโน ระบุว่า หากเสือยังอยู่ในความดูแลของวัดก็อาจไม่ตายแบบนี้ และโครงการไทเกอร์เทมเพิล หรือเสือวัด ก็คงจะสำเร็จไปแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับซากเสือที่ตาย ว่าเขี้ยวจากเสือที่ตาย 86 ตัวยังอยู่หรือไม่ เพราะเขี้ยวเสือมีราคาแพง 

หลวงตาจันทร์ ยังบอกว่า อยากฝากไปถึงนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ว่าทางวัดพร้อมจะดูแลเสือให้หากทางเจ้าหน้าที่เลี้ยงดูไม่ไหว และหากลำบากในการขนย้ายเสือที่ตัวใหญ่ก็ให้เอาลูกเสือกลับมา ทางวัดนั้นพร้อมจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเช่นเดียวกับบึงฉวากที่จังหวัดสุพรรณบุรี หรือจะนิมนต์ไปคุยเรื่องนี้ด้วยที่ไหนก็พร้อมจะไป

กรมอุทยานฯแจงเสือของกลางวัดหลวงตามหาบัวฯตาย 86 ตัว