ตำรวจจับกุมหนุ่มวัย 33 ปี เชือดม้าชำแหละเนื้อขาย เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์

พล.ต.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านพักพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับการสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้ตรวจสอบ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจาก "กลุ่มมูลนิธิวอทซ์ด๊อกซ์ ไทยแลนด์" ว่า มีคนนำม้ามาฆ่าเพื่อชำแหละเนื้อจำหน่าย

จากการตรวจสอบพบนายนิรันดร์ อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน ภายในบ้าน มีกลิ่นคาวเลือดแห้งเกรอะกรังที่พื้น พร้อมกะโหลกศีรษะม้า จำนวน 1 ชิ้น นอกจากนี้ ในที่ดินข้างเคียงกัน พบม้าเพศผู้ สีเทา ไม่ทราบอายุอีก 1 ตัวถูกล่ามไว้ โดยที่พื้นพบเศษซากกระดูกกรามม้าอีก 1 ชิ้นจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายนิรันดร์ ให้การว่า ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่สมัยอยู่กับตาที่บ้าน จนกระทั่งตาเสียจึงทำเพียงลำพัง โดยไปหาซื้อม้าที่หมดสภาพ อาทิ เช่น หรือพิการขาหัก มาจากฟาร์มช้างในพื้นที่บางละมุง มาเลี้ยงไว้ จากนั้นก็จะจ้างคนเชือดมาเชือด และชำแหละเนื้อนำไปจำหน่ายตามตลาดสด และโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท

ซึ่งได้ทำมาประมาณ 5-6 ตัวเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้เลิกทำไปประมาณ 1-2 เดือนแล้ว เนื่องจากเพิ่งประสพอุบัติเหตุถูกรถชนขาหัก จึงเกรงว่า มีสาเหตุมาจากการกระทำดังกล่าว ส่วนตัวล่าสุด ที่เลี้ยงไว้นั้น เตรียมก็นำไปขายไม่ได้จะนำไปฆ่า

ขณะที่ตัวแทนจากกลุ่มมูลนิธิวอทซ์ด๊อกซ์ไทยแลนด์ กล่าวว่า มีการร้องเรียนผ่านมูลนิธิมาเป็นเวลานานแล้วเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และมีข้อมูลเป็นภาพการจำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊กส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก และเพจดังกล่าวได้ลบไปแล้ว แต่ทางมูลนิธิสามารถรวบรวมไว้ได้ ก่อนหน้านี้แล้วเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการส่งดำเนินการ

ทั้งนี้ทราบว่า มีม้าอยู่ในการครอบครองของนายนิรันดร์ ถึง 10 ตัว แต่ปัจจุบันเหลือเพียงตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งการกระทำนี้ถือว่า ผิดตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งได้กระทำสำเร็จไปแล้ว และอาจเข้าข่าย พ.ร.บ.โรงฆ่าสัตว์ พ.ร.บ.อาหารและสาธารณสุข และโรคระบาดอีกด้วย ตำรวจจึงส่งตัวนายนิรันดร์ ให้พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง เจ้าของพื้นที่ดำเนินการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป