หญิงสาวร้องสื่อ อ้างโรงพยาบาลไล่สามีนอนเป็นผู้ป่วยติดเตียงออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่เบิกเงินประกันไปแล้ว 4 แสนบาท

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสรูปภาพและข้อความระบุว่าช่วยพ่อผมด้วยครับ โรงพยาบาลไล่พ่อผมออก คนไข้ตอนนี้อาการสาหัส ช่วยตัวเองไม่ได้ โรงพยาบาลรักษาผิดพลาด แล้วไม่รับผิดชอบ คนไข้เดินมาโรงพยาบาลเอง แต่วันนี้ต้องนอนติดเตียง ขอความเมตตา คนไข้และครอบครัว ช่วยรับพ่อผม ให้ได้รับการรักษาด้วย

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี พบว่าผู้ป่วยยังรักษาอยู่ในห้องพักฟื้น สวมเครื่องช่วยหายใจและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

แฟนสาวของผู้ป่วย เล่าว่า เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ผู้ป่วยปวดหัวรุนแรงและอาเจียน จึงมารักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว แพทย์วินิจฉัยว่าอาหารเป็นพิษ และนอนแอดมิด 1 คืน รุ่งขึ้นได้สแกนสมองพบว่า สมองบวม จึงส่งตัวไปรักษาตัวต่ออีกโรงพยาบาล โดยรักษานานกว่า40 วัน ก่อนกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงไปปรึกษาแพทย์ที่เชียวชาญด้านประสาท ได้ระบุว่าแพทย์โรงพยาบาลเอกชนที่แรก น่าจะวินิฉัยอาการผิดพลาด จนทำให้ผู้ป่วยอาการหนัก จนเมื่อเดือนพฤศจิกายนได้นำตัวผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้อีกครั้ง และได้เบิกเงินประกันชีวิต จ่ายค่ารักษาพยาบาลกว่า 4 แสนบาท

แต่เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา โรงพยาบาลได้บอกญาติว่าขอหยุดการรักษา และให้ไปรักษาที่บ้าน หากจะรักษาตัวต่อให้จ่ายเงินสดและทางโรงพยาบาลจะลดค่ารักษาให้ 30 เปอร์เซนต์ หรือไม่ก็จะส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม

สอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เพื่อขอคำชี้แจงจากผู้บริหารและผู้มีอำนาจในการให้ข้อมูล โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าผู้บริหารไม่อยู่ และไม่มีอำนาจชี้แจง แต่จะนำข้อมูลไปให้ผู้บริหารรับทราบ

หญิงร้องสื่อ รพ.ไล่สามีเป็นผู้ป่วยติดเตียงออกจากรพ.