หญิงชาวซาอุฯ เดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว หลังแคนาดาอนุมัติคำขอลี้ภัย ขณะที่ พ่อกับพี่ชาย ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ และเดินทางกลับไปแล้วเช่นกัน

กรณี นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-คูนุน อายุ 18 ปี ชาวซาอุดีอาระเบีย หลบหนีครอบครัวเข้ามาในประเทศไทย และ ขังตัวเองอยู่ในห้องพัก ก่อนจะได้รับสถานะผู้ลี้ภัย จาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR

วานนี้ (11 ม.ค.62) พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า นางสาวราฮาฟ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว เมื่อช่วง 5 ทุ่ม ที่ผ่านมา หลังแคนาดา อนุมัติคำขอลี้ภัย โดย นางสาวราฮาฟ ได้นั่งเครื่องบินของสายการบิน โคเรียนแอร์ เพื่อเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่ กรุงโซล ก่อนจะต่อเครื่องไปยัง แคนาดา ต่อไป

ส่วน กรณีที่พ่อและพี่ชายของ นางสาวราฮาฟ เดินทางมาประเทศไทย เพื่อขอพูดคุยกับ นางสาวราฮาฟ นั้น พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ เผยว่า นางสาวราฮาฟ ยืนยันว่า จะไม่ขอพบทั้งคู่ และ ทั้งคู่ ได้เดินทางกลับไปแล้ว เมื่อช่วง ตี 2 ที่ผ่านมา ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงจบลงเพียงเท่านี้

ขณะที่ นางสาวราฮาฟ ได้โพสต์ภาพระหว่างที่ตนอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงโซล พร้อมข้อความว่า ประเทศที่ 3 และ ฉันทำสำเร็จแล้ว โดยภายในภาพดังกล่าว ไม่ปรากฏใบหน้าของ นางสาวราฮาฟ แต่เห็นหนังสือเดินทางของซาอุฯ อย่างชัดเจน

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยืนยันว่า แคนาดา ได้รับคำขอจาก UNHCR ให้รับ นางสาวราฮาฟ เป็นผู้ลี้ภัยในประเทศ ซึ่ง แคนาดา ได้ตอบรับคำขอดังกล่าวของ UNHCR ด้วยความยินดี เนื่องจาก แคนาดา เป็นประเทศที่ เห็นถึงความสำคัญของการต่อสู้ เพื่อสิทธิมนุษยชน และ สิทธิสตรี ทั่วโลก

ทั้งนี้ การตัดสินใจรับ นางสาวราฮาฟ เป็นผู้ลี้ภัย ของแคนาดา อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง แคนาดา กับ ซาอุฯ ตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง