คนร้ายลงทุนเช่าอาคารพาณิชย์ เปิดร้านรับซื้ออัญมณี ก่อนหลอกเหยื่อชาวอินเดีย ให้นำเพชร 10 กะรัต มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทมาขาย แล้วฉวยโอกาสฉกเพชรหนีไป โดยขังผู้เสียหายไว้ในตึก

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (11 ธ.ค.) ตำรวจ สน.บางรัก ได้รับแจ้งมีเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่อาคารพาณิชย์ ใกล้ซอยสองพระ ถนนสี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. จึงเดินทางเข้า ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น 1 คูหา อยู่ติดริมถนนสี่พระยา ที่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับแลกเปลี่ยน และทำอัญมณี ไม่มีชื่อ

พบประตูกระจก ซึ่งเป็นประตูไฟฟ้าใช้รีโมตเปิด-ปิด สีดำ โดยประตูฝั่งซ้ายแตกละเอียดเศษกระจกกระจายเกลื่อนพื้น 1 บาน ภายในร้านมีการนำภาพอัญมณีหลากหลายแบบติดไว้ที่ผนัง มีชุดโต๊ะเก้าอี้ทำงาน 1 ชุด และโซฟา 1 ชุด ไม่มีตู้โชว์และอัญมณีจริงโชว์ภายในร้านแต่อย่างใด

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำเชือกมากั้น ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่

จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา มีนายเอ (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) อายุประมาณ 45-50 ปี สูงประมาณ 170 ซม. รูปร่างผอม ผิวสองสี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ได้ติดต่อขอเช่าอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว ในราคาเดือนละ 10,000 บาท เพื่อต้องการเปิดร้านแลกเปลี่ยน และรับทำอัญมณี โดยขอเคลื่อนย้ายเครื่องตกแต่งเข้าร้านให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะตกลงเซ็นสัญญาเช่ากับทางเจ้าของในภายหลัง เนื่องจากนายเอ ต้องการเปิดร้านให้เร็วที่สุด

กระทั่งวานนี้ (11 ธ.ค.) ได้มี ชายชาวอินเดีย อายุ 44 ปี (ผู้เสียหาย) ซึ่งมีอาชีพเป็นนายหน้าค้าเพชร กับเพื่อนอีก 1 คน ได้เพชรน้ำหนักประมาณ 10 กระรัต มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท มาติดต่อขายให้ที่ร้านดังกล่าว

จากนั้นนายเอ ก็ได้ออกอุบายขอดูเพชร โดยส่องกับแสงธรรมชาติ จึงเดินออกมาหน้าร้านและให้ผู้เสียหายรออยู่ในร้าน เมื่อสบโอกาสจึงกดรีโมตปิดประตูขังผู้เสียหายไว้ภายในร้าน และ วิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่น สี และ หมายเลขทะเบียน ที่มีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน ติดเครื่องรออยู่ขับหลบหนีไป

เมื่อนายเอ นำเพชรวิ่งหนีไป ผู้เสียหาย จึงใช้มือทุบกระจกประตูจนแตก และ พยายามวิ่งติดตามแต่ไม่ทัน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต้องเย็บจำนวน 20 เข็ม ขณะนี้อาการปลอดภัย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการสอบปากคำเจ้าของอาคารที่ให้เช่า และผู้เสียหาย พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางการหลบหนี และจะได้ติดตามจับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้ง ว่า ก่อนหน้าที่ ผู้เสียหายชาวอินเดีย จะนำเพชรมาขายให้คนร้าย ทางผู้เสียหาย ได้มีการโพสต์ขายเพชร ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้คนร้ายเห็น และตัดสินใจวางแผนเปิดร้านรับทำอัญมณีบังหน้า เพื่อหาโอกาสในการชิงเพชรดังกล่าว