ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สั่งประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2562 หลัง มีการประกาศพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว จำนวน 14 อำเภอ และมีพื้นที่การเกษตรได้รับผลประทบแล้วกว่า 700,000 ไร่

วันที่ 19 ต.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว จำนวน 14 อำเภอ และมีพื้นที่การเกษตรได้รับผลประทบแล้วกว่า 700,000 ไร่ โดยมีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 32 อำเภอ เร่งทำการสำรวจพื้นที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งเร่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ได้เตรียมความพร้อมพื้นที่จัดเก็บน้ำในพื้นที่ สำหรับให้ประชาชนใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอในช่วงหน้าแล้งนี้

โดยล่าสุด นางปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เนื่องจากปีนี้เกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงนานหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะพื้นที่อยู่นอกเขตของชลประทาน ทำให้ชุมชนต่างๆ ไม่มีน้ำฝนมาเติมในแหล่งเก็บน้ำที่เตรียมไว้อย่างเพียงพอ รวมทั้งพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าภัยแล้งปีหน้า อาจจะทวีความรุนแรงขึ้นได้

ดังนั้นในบ่ายวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงได้มอบหมายให้ตนเองเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดใน จ.นครราชสีมา อาทิ สำนักงานชลประทานที่8, สำนักงานชลประทานจังหวัด, สำนักงานเกษตรจังหวัด, การประปาส่วนภูมิภาคทั้ง 10 สาขา, สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัด, สำนักงาน ปภ.เขต5, ปภ.จังหวัด, สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค5, นายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ, อบจ. เทศบาล และ อบต.ทุกแห่ง ประชุมกันที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมหารือเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2562 โดยเบื้องต้นได้แจ้งให้ทุกอำเภอ ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค ดำเนินการสูบน้ำจากแหล่งน้ำดิบต่างๆ เพื่อทำการสำรองน้ำไว้ในแหล่งกักเก็บน้ำให้เต็มความจุ ให้เพียงพอสำหรับการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การผลิตน้ำประปา รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกภาคส่วนสำรองน้ำอุปโภคบริโภค เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในปีต่อไป