ศาลพิพากษาจำคุก "อดีตหลวงปู่เณรคำ" เพิ่มอีก 16 ปี ฐานพรากผู้เยาว์ และ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยศาล ให้นับโทษต่อจากคดีฉ้อโกง ที่เคยพิพากษาจำคุก 20 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้น 36 ปี

วานนี้ (17ต.ค.) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายวิรพล สุขผล อายุ 39 ปี หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำ ในความผิดฐาน พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร กรณีช่วงระหว่างเดือน ม.ค.43 ถึงกลางปี 44 อดีตเณรคำได้พรากเด็กหญิงวัย 13 ปีไปจากบิดา มารดา เพื่อการอนาจารและกระทำชำเรานาน 2 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่ได้กระทำผิด และเด็กที่เกิดมาไม่ใช่บุตรของตนเอง 

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของอดีตเณรคำ ขับรถมารับผู้เสียหายที่หน้าโรงเรียน แล้วพาไปส่งที่บ้านหลายครั้ง พากันไปมีเพศสัมพันธ์ในที่ต่างๆ และมีการโอนเงินให้ผู้เสียหายเป็นรายเดือน ประกอบกับผลตรวจดีเอ็นเอที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับบุตรชายของผู้เสียหาย พบว่ามีความพันธ์เป็นพ่อลูกจริง 

ศาลเห็นว่า การกระทำของอดีตเณรคำ มีความผิดจริง จึงให้ลงโทษ ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ให้ลงโทษจำคุก 8 ปี และ ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร ให้ลงโทษจำคุก 8 ปี รวมลงโทษจำคุก 16 ปี 

โดยให้นับโทษคดีนี้ต่อจากคดีฉ้อโกง ที่ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกไว้ 20 ปี รวมโทษจำคุกเป็น 36 ปี 

เมื่อวานนี้ (17ต.ค.) ผู้เสียหายในคดีนี้ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วย โดยยืนยันว่า นายวิรพล เคยทำผิดจริง ในขณะที่ยังคงสมณะ เป็นพระสงฆ์ ขณะนี้บุตรชายมีอายุ 16 ปีแล้ว 

ก่อนหน้านี้ นายวิรพล เคยส่งเสียเลี้ยงดูให้เงินเดือน เดือนละ 10,000 บาท หลังจากถูกดำเนินคดีนายวิรพล ไม่เคยส่งเงินช่วยเหลืออีกเลย ทำให้ต้องยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ เรียกร้องค่าดูแลบุตรเป็นเงิน 40 ล้านบาท เมื่อเดือน ก.ย.ปี 56 แต่ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว จนกว่าศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีพรากผู้เยาว์ก่อน 

สำหรับ นายวิรพล หรือ อดีตเณรคำ ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน จากศาลชั้นต้นแห่งรัฐบาลกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยเมื่อปี 2560 

และก่อนหน้านี้ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตพระเณรคำ ฐานฉ้อโกงประชาชน ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน รวมจำคุก 114 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดตามกฎหมายได้ 20 ปี และ ให้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 29 ราย ตามจำนวนที่ฉ้อโกงไป