ครอบครัวร้องเรียน คดี "น้องเมย" เสียชีวิตปริศนา ผ่านไป 10 เดือน ไม่มีความคืบหน้า และ มาถึงทางตัน เพราะ อวัยวะภายใน ที่ถูกดองไว้ ได้รับความเสียหาย ส่งผลต่อรูปคดี เตรียมยื่นหนังสือร้องแพทยสภา พิจารณาจรรยาบรรณและวิธีการทำงานแพทย์ว่า เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

นายพิเชษฐ พร้อมด้วย นางสุกัลยา และ นางสาว สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อ แม่และพี่สาวของ นายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” อดีตนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 17 ตุลมคม ปีที่ผ่านมา หลังถูกธำรงวินัยขณะอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร ได้ออกมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวอีกครั้ง หลังพบว่า คดีผ่านมา 10 เดือนแล้ว ไม่มีความคืบหน้า และผลการตรวจพิสูจน์อวัยวะหลายส่วนเสียหาย

นางสาว สุพิชา พี่สาวน้องเมย บอกว่า เวลานี้ ครอบครัวได้รับความเสียหาย จากผลการชันสูตรพลิกศพ ที่ต้องใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาการไต่สวน หาสาเหตุการเสียชีวิตในชั้นศาล ซึ่งแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีความเห็นแตกต่างกับ คณะแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และผลการตรวจพิสูจน์ชิ้นเนื้อดีเอ็นเอ จากอวัยวะหลายส่วน ที่แพทย์จากสถาบันแรกได้ดองไว้ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของ "น้องเมย" หรือไม่

ส่งผลต่อสำนวนการชันสูตรของ สภ.เมืองนครนายก และ สภ.บ้านนา จังหวัดนครนายก ทำให้คดีเกิดความล่าช้า เนื่องจาก อัยการไม่สามารถลงความเห็นการตายได้ จนไม่สามารถส่งสำนวนให้ศาลไต่สวนได้เช่นกัน การที่อวัยวะเสียหาย มีผลกับรูปคดีมาก เพราะแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เขียนไว้ชัดเจนว่า ไม่สามารถสรุปหาสาเหตุการตายได้ เนื่องจากขาดอวัยวะที่สำคัญ

ครอบครัวจึงตัดสินใจทำหนังสือ ขอความเป็นธรรมไปยังแพทยสภา เพื่อให้ช่วยลงมาพิจารณาว่า การเก็บ การผ่าชันสูตรพลิกศพ หรือแม้แต่ การดองอวัยวะของสถาบันพยาธิวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ทำถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ เพราะจากการคุยกับคุณหมอผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง บอกว่า การเก็บดองอวัยวะ ย่อมส่งผลต่อการหาอัตลักษณ์บุคคลได้ว่า เป็นของใคร แต่ของเมย เพียงไม่กี่เดือน การดองอวัยวะกับถูกทำลายจนตรวจหาไม่ได้ ซึ่งเป็นการ ดองด้วยฟอร์มาลินที่เข้มข้นเกินกว่าที่ควรจะทำหรือไม่ วิชาชีพแพทย์ ทุกคนต้องรู้ว่า การดองอวัยวะที่สมบูรณ์ ทำอย่างไร ใช้ฟอร์มาลิน กี่เปอร์เซ็นต์ 

นางสาว สุพิชา บอกถึงความคืบหน้าทางคดีว่า หลังแจ้งความไป ทั้งหมด 4 เรื่อง แต่ได้ขึ้นศาลเพียง 1 เรื่อง คือ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปีที่ผ่านมา เป็นวันที่ "น้องเมย" ถูกรุ่นพี่บังคับบัญชา ทำร้ายร่างกายเท่านั้น

หากสุดท้ายแล้วการเสียชีวิตของ “น้องเมย” ไม่มีความคืบหน้าทั้งในทางคดี หรือแม้แต่การขึ้นสู่ศาล ครอบครัว จำเป็นจะต้องทำหนังสือเปิดผนึกยื่นต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรม เพื่อให้การทำงานของหน่วยงานต่างๆ คล่องตัวขึ้น รวมทั้งการให้ความร่วมมือของโรงเรียนเตรียมทหารด้วย  พร้อมยกคำพูดของคุณหมอพรทิพย์ ที่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่า "เรื่องของเมย มีคนจงใจทำให้ไม่ได้ไปต่อ "

ด้าน นายพิเชษฐ พ่อน้องเมย บอกว่า ตั้งแต่วันที่ รับอวัยวะของลูกชาย จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ากลับมา ไม่เคยมั่นใจเลยว่า จะอวัยวะของลูกชายทั้งหมด โดยดูจากหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องการผ่าพิสูจน์ แต่กลับไม่นำอวัยวะกลับคืนร่าง รวมทั้งเมื่อครั้งเกิดเรื่อง จึงเพิ่งรู้ว่าอวัยวะลูกถูกนำออกจากร่าง โดยไม่รู้ถึงเหตุและผลของการกระทำ

ส่วน นางสุกัลยา แม่น้องเมย บอกว่า10 เดือนของการจากไป ภาพของ "น้องเมย" ไม่เคยหายไปจากความทรงจำ ทุกวันนี้ ไม่มีวันไหนที่ยิ้มได้อย่างสบายใจ และไม่เคยจะไม่ร้องไห้ รวมทั้งยังน้อยใจ ที่คดีของลูกไม่คืบหน้า แม้จะพยายามเดินตามทางโดยถูกต้องทุกประการ ไม่ว่าจะทำหนังสือถึงทุกจุดที่ควรทำ แต่ก็ได้รับคำตอบเพียง ให้รอ ในฐานะแม่ อยากบอกกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ว่า ครอบครัวไม่ต้องการอะไร นอกจากขอความเป็นธรรมให้ "น้องเมย" เท่านั้น

ครอบครัว "น้องเมย" ร้อง 10 เดือนคดีไม่คืบ ไม่มันใจอวัยวะของลูกชายหรือไม่