ปฏิบัติการค้นหานักเตะเยาวชน 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ขณะนี้ยังไม่พบตัว พ่อแม่รอลุ้นหน้าถ้ำเป็นลมหลายตลบ หลังพบร่องรอยผู้สูญหาย เชื่อลูกยังมีชีวิตอยู่

ปฏิบัติการค้นหาข้องหน่วยซีล กองทัพเรือเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ โดยได้เข้าสำรวจพื้นที่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามหานักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชรวม 13 ชีวิต ที่หายเข้าไปในถ้ำนานเกือบ 40 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 23 มิถุนายน

โดยหน่วยซีล ได้ใช้อุปกรณ์ขุดเจาะ จนทะลุอีกฝั่งของถ้ำ จากนั้น ได้ลุยน้ำลึกกว่า 7 เมตร เข้าไปค้นหาบริเวณห้องโถงกลางของถ้ำ จุดที่คาดว่า เด็กๆ และโค้ชติดอยู่ โดยพบร่องรอยเป็นรอยเท้า และพบรอยขีดเขียนเหมือนถูกทำสัญลักษณ์ไว้ จึงมั่นใจว่า มาถูกทางแล้ว แต่ภายในถ้ำ ความมืดยังเป็นอุปสรรคสำคัญ

ล่าสุด มีรายงานว่า ตชด. ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นบินตรวจสอบเหนือวนอุทยานฯ ต่อเนื่อง เพื่อหาช่องทางที่เชื่อมต่อกับตัวถ้ำ ที่อาจเป็นช่องทางที่กลุ่มเด็กๆ อาจจะออกไป เพื่อหนีน้ำได้

ส่วนบรรยากาศที่ปากถ้ำ พ่อแม่ และญาติๆ ของนักฟุตบอลทีมหมูป่าและโค้ช รวม 13 คน ต่างเฝ้ารอลุ้นอยู่หน้าถ้ำอย่างใจจดใจจ่อ บางรายเริ่มท้อ ร้องไห้ มีอาการเป็นลม ทำให้ทางหน่วยแพทย์ และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ต้องเร่งให้การช่วยเหลือ

หนึ่งในผู้ปกครอง บอกว่า ลูกชอบเล่นฟุตบอลมาก มีกำหนดจะไปแข่งขันกีฬากันในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ จึงนัดกันไปซ้อม แต่ไม่ได้บอกว่า จะไปที่ถ้ำ เพิ่งมารู้ทีหลัง ตอนนี้ได้แต่ภาวนา ขอให้ลูกปลอดภัย ยืนยันจะปักหลักรอ จนกว่าจะได้รับข่าวดี และเชื่อว่า ทั้งหมดปลอดภัย หลังหน่วยซีลเจอร่องรอยของผู้สูญหาย พบรอยนิ้วมือปีนขึ้นหนีน้ำท่วม

ด้านพลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เชื่อว่า เด็กๆรู้วิธีเอาตัวรอดจากน้ำท่วมได้ เพราะมีบางคนเคยเข้าไปเที่ยวในถ้ำแล้ว และมีประสบการณ์การเอาตัวรอดจากน้ำท่วม พร้อมกันนี้ อยากขอความร่วมมือ งดจุดธูปเทียนใกล้พื้นที่บริเวณปากถ้ำ เพราะจะทำให้เกิดควันลอยเข้าไปในถ้ำ ส่งผลให้อากาศ หรือออกซิเจนในถ้ำน้อยลง

อย่างไรก็ตาม มีการเผยแพร่ภาพในสังคมออนไลน์ พบว่า โค้ชคนดังกล่าว เคยพาเด็กๆ นักฟุตบอลลูกทีม เข้าไปฝึกพิเศษ ก่อนการแข่งฟุตบอลที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มาแล้วเมื่อ 2 ปี ก่อน

และเคยโพสต์ภาพเด็กๆ เนื้อตัวเปื้อนโคลน ปีนไต่อยู่ในถ้ำ แต่สถานการณ์ครั้งนั้นกับครั้งนี้ต่างกัน เพราะคราวที่แล้ว เป็นช่วงหน้าหนาว แต่ครั้งนี้เป็นช่วงหน้าฝน คงไม่คาดคิดว่า จะเกิดน้ำท่วมถ้ำอย่างฉับพลัน

สำหรับถ้ำหลวง มีความกว้างใหญ่และลึกมาก ยิ่งลึกอากาศยิ่งน้อย ต้องใช้เวลาเข้าออกประมาณ 4 ชั่วโมง โดยปกติถ้ำนี้ จะไม่ค่อยมีคนเข้าไปข้างใน และมีตำนานเล่าขานถึงความลี้ลับมากมาย การที่จะเข้าไปในถ้ำแห่งนี้ ตามความเชื่อ ต้องขออนุญาตจากผู้ที่ดูแลถ้ำ และเข้าไปชมด้วยความสงบ

ญาตินักเตะพลัดหลงถ้ำหลวง รอลุ้นหน้าถ้ำ เชื่อลูกยังมีชีวิต