สพฐ.สั่งทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ที่มีโครงการอาหารกลางวัน ต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพอาหารกลางวัน หากโรงเรียนไหนบอกพร่อง ต้องลงโทษ เผยพบครูโรงเรียนชัยนาท 2 คน ส่อทุจริตอาหารกลางวันเด็ก
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาทุจริตโครงการอาหารกลางวันว่า จากการตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันใน 10 เขตพื้นที่ รวมแล้ว 12 โรงเรียน ส่วนใหญ่พบดำเนินงานจัดสรรอาหารกลางวันบกพร่อง ทำงานไม่เป็นระบบ
ส่วนการทุจริตพบเพียง 2-3 โรงเรียนเท่านั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท มีครูประจำโรงเรียนเพียง 2 คน จัดอาหารกลางวันไม่เป็นระบบ หรือ อาจจะตั้งใจทุจริต ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเห็นภาพรวมของปัญหาทุจริตอาหารกลางวันทั่วประเทศ **ทั้งนี้ ทาง สพฐ.รับนโยบายมาจาก นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า ต้องลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที หากพบการทุจริต
หลังจากนี้ทุกโรงเรียนที่จัดอาหารกลางวันเด็ก จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระบบ และต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบปริมาณ ราคา และคุณภาพ อาหารกลางวันว่า ตรงตามตัวชี้วัดของหลักโภชนาการหรือไม่ ถ้าโรงเรียนไหนไม่มีคณะกรรมการตรวจสอบ หรือดำเนินการไม่เป็นระบบ ถือว่าโรงเรียนเหล่านี้ดำเนินการบกพร่อง ต้องได้รับโทษ ส่วนจะลงโทษลักษณะไหน ขึ้นอยู่ที่ว่า ทำให้เกิดความเสียหายแค่ไหน
สพฐ.เร่งหาข้อสรุปลดการบ้าน-ลดภาระนักเรียนสอบปลายภาค
นายบุญรักษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งให้ลดการบ้านเด็กนักเรียน และ สอนเด็กให้คิด วิเคราะห์มากขึ้นนั้น ขณะนี้ สพฐ.ได้เร่งปฏิรูปการศึกษา โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็น คือนักเรียน ครู และการบริหารจัดการ
โดยมีการระดมความคิดเห็นหารือใน6 ข้อ คือ 1.ลดการบ้านนักเรียน 2.ให้มีแบบเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทย ปลูกฝังความรักชาติ ศาสนา และสถาบัน 3.ปรับปรุงหนังสือแบบเรียน โดยแยกส่วนแบบฝึกหัดออกจากกัน เพื่อให้นักเรียนรุ่นหลังใช้หนังสือแบบเรียนต่อจากรุ่นพี่ได้
4.ทบทวนการออกข้อสอบ ให้เป็นเชิงอัตนัยที่เน้นการคิดวิเคราะห์มากขึ้น 5.ลดภาระนักเรียนในการสอบปลายภาค และ 6.แนวทางการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา คาดว่า การหารือ จะได้ผลสรุปจากที่ประชุมเสนอต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอความเห็นชอบในวันพรุ่งนี้ ( 26 มิ.ย.)