คนร้ายสวมไอ้โม่ง ตีหัวแม่บ้านทำงานความสะอาดศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ขณะกำลังปั่นจักรยานออกไปทำงาน จากนั้นลากตัวไปข่มขืน แต่เหยื่อขัดขืนต่อสู้ ถูกคนร้ายบีบคอหวังให้ขาดใจตาย รอดมาได้เพราะสลบ

หญิงอายุ 44 ปี แม่บ้านทำความสะอาดภายในศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าม่วง ในสภาพถูกทำร้ายสภาพสะบักสะบอม มีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง กระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ เลือดออกภายในร่างกาย กระดูกคอร้าว เนื่องจากถูกของแข็งฟาด จากการถูกคนร้าย ชายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า และสวมถุงมือมิดชิด บุกใช้ไม้ตีเข้าที่ด้านหลังศรีษะ ขณะกำลังปั่นจักรยานออกจากบ้าน พื้นที่หมู่ 2 บ้านหนองแก ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง ไปทำงานที่ศาลากลางจังหวัด ช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 05.30 นาฬิกา ของวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา 

ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า จุดเกิดเหตุ เป็นคันนา ห่างจากบ้านเพียง 50 เมตร คนร้ายใช้ไม้ตี ทำให้จักรยานล้ม จากนั้นคนร้ายก็ตามมาบีบคอ พร้อมลากตัวไป ข่มขืน พยายามต่อสู้ กัดเข้าที่มือคนร้าย และ กระชากไอ้โม่งจนหลุด เห็นหน้าชัดเจน 

จากนั้นคนร้ายบีบคอแรงขึ้น หวังให้ขาดอากาศหายใจตายจนสลบ เมื่อคนร้ายคงคิดว่า ตนเองตายแล้วจึงหนีไป เมื่อตนเองฟื้นขึ้นมา จึงโทรศัพท์หาแม่ ซึ่งบวชเป็นแม่ชี และ โทรหาหัวหน้างานให้ส่งคนไปช่วยเหลือ 

ด้าน หัวหน้างานของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า รู้สึกตกใจมากหลังผู้บาดเจ็บได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ถูกคนร้ายทำร้ายและข่มขืน และ ขอให้ส่งคนไปช่วยเหลือ ตนเองเพราะไม่คิดว่า จะถูกทำร้ายรุนแรง โดยได้ไปแจ้งตำรวจออกไปค้นหาจนไปพบว่า นอนหมดสติอยู่บ้านกลางทุ่งนา จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาตำรวจภูธรหนองขาว คุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นมีศักดิ์เป็นเครือญาติกับผู้บาดเจ็บ ที่บ้านพักห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร มาสอบสวนดำเนินคดี เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บ ให้การยืนยันชัดเจนเพราะเห็นหน้าช่วงที่กระชากไอ้โม่งต่อสู้กัน 

ตำรวจ จึงควบคุมตัวไปเก็บตัวอย่าง ขนเพชร เพื่อนำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอ กับคราบอสุจิ ที่พบในตัวผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา และ ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นำตัวส่งฝากขัง ที่เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรีทันที 

สำหรับมูลเหตุ ตำรวจยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากผู้ต้องสงสัย ยังคงให้การปฏิเสธ แต่ในเบื้องต้น ทราบว่าผู้บาดเจ็บ กับ บ้านของผู้ต้องสงสัย มีปัญหากันมานาน เนื่องจากบ้านอยู่ในที่ดินผืนเดียวกัน ผู้บาดเจ็บไม่ยอมขายให้ผู้ต้องสงสัย จึงกลายเป็นปัญหาขัดแย้งเรื่อยมา อย่างไรก็ตามตำรวจจะสอบสวนผู้บาดเจ็บ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรอผลชันสูตร เทียบเคียงอีกครั้ง 

สำหรับผู้บาดเจ็บชีวิตน่าสงสาร ครอบครัวยากจน ต้องดูแลพ่อที่ป่วย ปั่นจักรยานสภาพเก่าๆ มานานหลายปี และออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดเพราะบ้านอยู่ไกลกว่า 20 กิโลเมตร 

นอกจากนี้ ตำรวจภูธรหนองขาว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเข้าไปดูบ้านของผู้เสียหาย พบว่า ผู้บาดเจ็บ มีฐานะยากจน อาศัยอยู่กับพ่อ อายุ 80 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพาต ผู้เสียหายจะต้องปั่นจักรยานจากบ้านไปทำงานที่ศาลากลาง ไปและกลับวันละเกือบ 60 กิโลเมตร สอดคล้องกับข้อมูลของหัวหน้างานที่บอกว่า ผู้บาดเจ็บ ต้องปั่นจักรยานออกมาทำงานตั้งแต่เช้า ผู้บาดเจ็บ เป็นคนขยันทำงานและมีนิสัยร่าเริงเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน 

ขณะที่ นายจีระเกรียติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม นายกเหล่ากาชาด ได้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และ เจ้าหน้าที่ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่ไปดูแลและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และ ให้ช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รับปากกับทางญาติ ว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่อีกด้วย

คนร้ายข่มขืนสาวพนักงานทำความสะอาด พยายามฆ่าแต่รอดมาได้เพราะสลบ