พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล แถลงผลร่วมกับตำรวจไต้หวัน บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับผู้ต้องหาระดับแกนนำสำคัญของเครือข่ายได้ 10 คน และผู้ทำหน้าที่กดเงินอีก 11 คน

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วย ตำรวจศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชน ผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แถลงผลการนำกำลังตำรวจไทยร่วมกับ ตำรวจสอบสวนอาชญากรรมไต้หวัน บุกเข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์เครือข่าย แก๊งซือโถว แกนนำสำคัญของเครือข่าย 10 คนในเมืองไถหนาน ทางตอนใต้ของไต้หวัน จับผู้ต้องหาชาวไต้หวันได้ 21 คน  หลังเดินทางกลับจากไต้หวัน ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเย็นวานนี้(25พ.ค.)

การเข้าจับกุม ในครั้งนี้เป็นการประสานข้อมูลจากทางการไทยกับทางการไตหวัน ภายหลังสืบทราบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่ อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นในเมืองไถหนาน สร้างความเสียหายต่อคนไทยกว่า 100 ล้านบาท

ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนอาชญากรรม ไต้หวัน ระบุว่า ตำรวจไต้หวัน ได้เจาะฐานข้อมูลและลอบดักฟังการใช้โทรศัพท์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ข้อมูลที่ได้มาตรงกับของตำรวจไทย

จึงวางแผนเข้าจับกุม จับผู้ต้องหาระดับแกนนำสำคัญของเครือข่ายได้ 10 คน และคนกดเงิน 11 คน รวม 21 คน พร้อมของกลาง 1,700,000 ดอลล่าห์ไต้หวัน โทรศัพท์มือถือ 14 เครื่อง บัตรเอทีเอ็ม 10 ใบ สมุดบัญชีรายชื่อเครือข่าย 7 เล่ม ซีพียูคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบความเคลื่อนไหวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก อยู่ระหว่างการขยายผล พร้อมทั้งออกหมายจับผู้ต้องหาที่หลบหนีออกไปจากไต้หวัน ได้อีก 2 คน

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ บอกอีกว่า ทางการไต้หวันรู้สึกยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับทางการไทยครั้งนี้ จนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ หากพบการขยายตัวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีกเมื่อไรจะประสานงาน และเข้าจับกุม พร้อมทั้งจะเพิ่มโทษให้รุนแรงเพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความเข็ดหลาบ

ส่วนตัว มองว่า การจะกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไปจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ และทำงานแบบหนึ่งเดียวทั้งโลก เชื่อมั่นว่า หลังจากนี้ไปการหลอกลวงคนไทย ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะลดน้อยลง

"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" นำทีมบุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไต้หวันได้ผู้ต้องหา 21 คน