กทม.เข้ารื้อแผงลอยหน้าห้างสรรพสินค้า ย่านลาดพร้าว ริมถนนพหลโยธิน ที่รุกล้ำทางเท้า ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเกิด โดยกำหนดว่า ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.นี้ จะต้องไม่มีการขายสินค้าบนทางเท้าอีก

เจ้าหน้าที่เทศกิจ เข้ารื้อร้านค้าแผงลอยหน้าห้างสรรพสินค้าดัง ย่านลาดพร้าว ริมถนนพหลโยธิน ที่กีดขวางทางเท้า เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชน หลังถูกร้องเรียนปัญหาร้านค้ารุกล้ำทางเท้าและผิวการจราจร

โดย นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ประชาชนได้ร้องเรียนมานานจากปัญหาความไม่สะดวกในการเดินบนทางเท้าบริเวณหน้าห้างดังกล่าว ที่มีแผงค้าอาหารและเสื้อผ้าจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเย็น ที่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน จะมีกลุ่มผู้ค้าจะตั้งวางแผงค้าเต็มพื้นที่ 

จากการลงพื้นที่สำรวจพบมีแผงค้าประมาณ 40 แผงค้า อีกทั้งบนผิวจราจรยังมีการจอดรถตู้โดยสารสาธารณะรอรับผู้โดยสารด้วย ส่งผลให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้น

จากการทำความเข้าใจกับผู้ค้า ได้ข้อสรุปว่าในวันที่ 29 พฤษภาคม จะไม่มีการขายสินค้าบนทางเท้าและผิวการจราจรตลอดแนว หากผู้ค้าฝ่าฝืนข้อกำหนดจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ปี 2535

ซึ่งขณะนี้ สำนักงานเขตจตุจักร ได้ทำป้ายปิดประกาศแจ้งผู้ค้าแล้วและจะจัดกำลังดูแลไม่ให้มีการตั้งวางแผงค้าในบริเวณนี้อีก โดยจะให้ย้ายไปขายในจุดที่จัดไว้ คือ ทางโค้งติดกับสวนสมเด็จย่า ซึ่งเดิมพื้นที่นี้จุผู้ค้าประมาณ 70 ราย แต่จำนวนผู้ค้าทั้งหมดมีประมาณ 120 ราย จึงต้องปรับพื้นที่ใหม่ให้เกิดความเหมาะสม ระหว่างนี้อยู่ระหว่างทำบัญชีจำนวนผู้ค้าเพื่อจัดสรรให้มีพื้นที่ขายมากที่สุด

ขณะที่ ผู้ใช้ทางเท้า เปิดเผยว่า หลังจากมีการรื้อร้านค้าแผงลอยหน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าว น่าจะทำให้ได้รับความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น เพราะไม่ต้องคอยเดินหลบร้านค้า และไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากการลงไปเดินบนถนน ทำให้คนมีทางเดินมากขึ้นกว่าเดิม และรถก็อาจจะติดน้อยกว่าเดิม 

สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่บริเวณนี้ กทม.ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใดๆ และหากประสบความสำเร็จก็จะขยายไปจัดระเบียบพื้นที่หน้าห้างสรรพสินค้าอื่นอีก 5-6 แห่ง ในพื้นที่ลาดพร้าว และ รามคำแหง

กทม.เข้ารื้อแผงลอยหน้าห้างดังย่านลาดพร้าว เหตุลุกล้ำทางเท้า