สภาเตรียมปรับลดสเปกอุปกรณ์ไอที ทั้งไมโครโฟน และโทรทัศน์ โดยตัดระบบเทคโนโลยีขั้นสูงออก ปรับเปลี่ยนจากมาตรฐานยุโรปไปใช้มาตรฐานจีนแทน พร้อมลดงบซื้อไมโครโฟนเหลือตัวละ 8 หมื่นบาท จากเดิมกว่า 1 แสน 3 หมื่นบาท

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับลดงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่  หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งให้มีการทบทวนปรับลดงบประมาณกว่า 8 พันล้านบาทว่า เบื้องต้นได้พิจารณาปรับลดงบประมาณและสเปคของไมโครโฟนลง เหลือเพียงตัวละ 80,000 บาท จากราคาเดิมที่เสนอ พร้อมเทคโนโลยีส่วนประกอบราคา 135,915 บาท โดยได้ปรับกลับไปใช้ระบบเดิมที่ไม่มีแผงการอ่านบัตรและแผงอ่านลายนิ้วมือ

ส่วนนาฬิการาคาเรือนละ 70,000 บาท ที่เสนอจัดซื้อเพียง 2 เรือน เพื่อใช้ในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเท่านั้น แต่เมื่อมีเสียงทักท้วงมา ก็อาจกลับไปใช้นาฬิกาใส่ถ่านตามท้องตลาดที่ใช้ระบบอนาล็อคแทน ซึ่งการพิจารณาปรับลดงบประมาณครั้งนี้จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด  คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมได้

เตรียมลดสเปก-ตัดระบบเทคโนโลยีขั้นสูงออก หลังจากถูกครม.ท้วงไมค์-ทีวีแพงเกิน

ด้าน นายพรเทพ ฤทัยเจริญลาภ ผู้จัดการโครงการออกแบบ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวว่า ทีมทำงานได้วางแผนปรับลดสเปกอุปกรณ์ที่ใช้  ซึ่งจากเดิมวงเงินที่เสนอขอไปนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานของรัฐสภาในมาตรฐานยุโรป ทั้งระบบไมโครโฟนที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เชื่อมต่อกับจอทัชสกรีนที่รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ  การแสดงตนผ่านบัตรประจำตัวและเชื่อมต่อกับกล้องซีซีทีวีที่สามารถบันทึกภาพใบหน้า และเสียงผู้อภิปรายได้

แต่เมื่อสเปกดังกล่าว ถูกท้วงติงอาจปรับลดให้เป็นมาตรฐานประเทศจีนและตัดส่วนระบบทัชสกรีนออก เหลือแค่การเสียบบัตร เหมือนเดิม แต่ยังตอบไม่ได้ว่าแต่ละแนวทางจะปรับลดงบประมาณลงได้กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

"วิลาศ"แจงค้านซื้อไมค์แพงเกินจริง ไม่ได้ขวางเทคโนโลยีสมัยใหม่

ขณะที่นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนออกมาท้วงติงเรื่องการใช้งบประมาณ เพราะเห็นว่าการจัดซื้ออุปกรณ์ไอที มีราคาแพงเกินจริง และสูงมากผิดปกติ แต่ไม่ได้บอกว่าขอให้ปรับลดมาตรฐานลง จากมาตรฐานยุโรปมาเป็นมาตรฐานจีน ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน

เพราะไมโครโฟนราคาตัวละกว่า 135,000 บาท รวม859 ตัว ที่ต้องใช้เงินรวมกว่า 116 ล้านบาทนั้น  ไม่ได้ระบุยี่ห้อ  บริษัทแหล่งผลิต และคุณสมบัติ จึงไม่รู้ว่า รายละเอียดใดๆทั้งสิ้น

ส่วนตัวยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการใช้เทคโนโลยีสาระสนเทศสมัยใหม่ในอาคารรัฐสภาใหม่ แต่ต้องคำนึงถึงราคาและคุณภาพของสินค้า โดยต้องบอกยี่ห้อ คุณสมบัติและที่มาแหล่งผลิตด้วย ไม่ใช่บอกแค่ราคาต่อหน่วยและจำนวนงบประมาณเท่านั้น โดยไม่มีรายละเอียดใดๆ ซึ่งตนจะติดตามเอกสารหลักฐานอื่นๆในการจัดซื้อจัดจ้างที่ใช้ในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เพื่อชี้แจงต่อสังคมเป็นระยะต่อไป