นายกรัฐมนตรี ขอให้การแก้ปัญหากรณีสร้างบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงใหม่ ยึดตามกฎหมาย ระบุเสียดายงบประมาณ ถ้าหากต้องทุบทิ้ง เตรียมแปรสภาพพื้นที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ของประชาชน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีชาวบ้านคัดค้านการสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณเชิงดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการอนุมัติการก่อสร้างก่อนที่รัฐบาลคสช.จะเข้ามาบริหารประเทศ 

ซึ่งพื้นที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนล่างจะเป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรม ส่วนที่ 2 คือ สถานที่พักที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ และในส่วนที่ 3 ยังไม่ได้ก่อสร้างเนื่องจากทำไม่ได้ แม้ว่ารัฐบาลคสช.จะไม่ได้เป็นผู้อนุมัติโครงการนี้ แต่จะแก้ปัญหาให้เกิดความชัดเจนเป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามที่ประชาชนต้องการ 

โดยยอมรับว่า รู้สึกเสียดายในงบประมาณที่ก่อสร้างมา หากมีการทุบทิ้ง ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาก็ถูกขั้นตอนและถูกต้องตามสัญญาต่างๆ จึงให้มณฑลทหารบกที่ 3 และกระทรวงมหาดไทย ไปหารือและหาทางออกร่วมกัน อาจจะมีการแปรสภาพเป็นสถานที่ในการฝึกอบรม หรือ เป็นศูนย์การเรียนรู้ของประชาชน 

แต่ขออย่าเชื่อมโยงกับการบุกรุกพื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ท เพราะถือเป็นการกระทำที่ผิด จึงขออย่ามาเดินขบวน และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ใช่คู่อริกับใคร 

ด้านนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ตัวแทนจากศาลยุติธรรมไม่ได้เข้าร่วมประชุมหารือเมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมาว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม จะมีการประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว 

จึงแจ้งไปยังนายสวัสดิ์ สุรวัฒนานันท์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า หลังจากการประชุมเสร็จก็จะมีการนำความเห็นจากมติการประชุมก.บ.ศ.เสนอต่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ซึ่งนายสวัสดิ์ พิจารณาเห็นแล้วว่าทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่มีอำนาจตัดสินใจใดๆ ในเรื่องดังกล่าวนี้ได้ จึงไม่อาจส่งบุคคลใดเข้าร่วมตามคำเชิญได้ 

ซึ่งนายสวัสดิ์ ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 เมษายน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ขณะที่พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า หากมีผู้ร้องกรณีการสร้างบ้านพักตุลาการ มาที่ผู้ตรวจก็พร้อมที่จะพิจารณา แต่เบื้องต้นผู้ตรวจฯ เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามแก้ไขปัญหาอยู่ ส่วนตัวมองว่า ปัญหา คือ เจ้าของพื้นที่เป็นห่วงเรื่องป่า แต่ศาลยุติธรรมก็ได้ที่ดินมาโดยชอบ และโครงการก็เดินหน้ามาค่อนข้างไกล หากจะยกเลิกทันที ศาลก็ไม่มีอำนาจ เพราะถ้ายกเลิกก็ต้องรับผิดชอบงบประมาณที่เสียไป เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จึงคิดว่าป่ากับคนต้องอยู่กันให้ได้ 

ด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า การที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม มีมติทำหนังสือรวบรวมข้อเท็จจริงนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตัดสินใจ โดยที่ทางสำนักงานศาลยุติธรรม ไม่ขัดข้อง สร้างความพอใจให้ภาคประชาชนในระดับหนึ่ง แต่ยังยืนยันจุดยืนว่าต้องการให้รื้อถอนโครงการก่อสร้างในส่วนที่ยื่นล้ำขึ้นไป ซึ่งทางผู้ว่าฯเชียงใหม่ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบแนวเขตป่าดั้งเดิมที่ชัดเจน เพื่อสรุปข้อมูลนำมาใช้ประกอบการพิจารณา คาดว่าจะทราบผลสรุปโดยเร็ว 

ส่วนที่จังหวัดลำปาง นายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร เครือข่ายขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายประกาศยุติกิจกรรมเดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ และหลังสิ้นเทศกาลจะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ในวันที่ 19 เมษายน โดยจะเริ่มเดินจากบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง และจะเปลี่ยนเป้าหมายจากทำเนียบรัฐบาล ไปที่สำนักงานศาลยุติธรรม