สิ่งแวดล้อมภาค 8 เผยผลตรวจกากขยะอุตสาหกรรมที่ถูกลักลอบทิ้ง พบแอมโมเนียและโลหะหนัก

จากชาวบ้านหมู่ที่ 11 บ้านวัดหนองประทุน ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า มีคนนำถุงขยะมีพิษจำนวนมาก มาทิ้งไว้ บริเวณริมคลองหนองไร่ - บุญญานุศาสน์ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งจนแสบจมูก ไปทั่วบริเวณ โดยกลิ่นโชยไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นผงฝุ่นสีเทา คล้ายขี้เถ้า ซึ่งชาวบ้านเกรงว่า ผงฝุ่นจากขยะดังกล่าว จะปลิวไหลลงไปในน้ำคลองสาธารณะที่อยู่ติดกัน โดยเป็นแหล่งน้ำสำคัญ ที่ชาวบ้านใช้เป็นประจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 ได้เก็บตัวอย่างขยะดังกล่าว ไปตรวจสอบหาชนิดของสารแล้ว

ล่าสุด นายสมศักดิ์ พลายมาต ผู้อำนวยการส่วนควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างกากของเสีย จำนวน 2 ตัวอย่าง มาทำการทดสอบ พบค่า pH เป็นด่างสูง มีสารโครเมียม และ แอมโมเนียมไดโครเมต ปะปนอยู่ โดยเฉพาะโครเมียม ซึ่งเป็นโลหะหนัก เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต

สารโครเมียม และ แอโมเนียมไดโครเมตร เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก ฟอกหนัง แก้วสี และ โรงชุบโลหะ จากข้อมูลพื้นที่ ในตำบลกรับใหญ่ มีโรงงานอุตสาหกรรม ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอุตสาหกรรม จำนวน 50 แห่ง แต่โรงงานที่เข้าข่ายใช้สารเคมีดังกล่าว มี จำนวน 7 แห่ง ผู้ประกอบการที่ลักลอบนำขยะดังกล่าวมาทิ้ง ตาม พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย

หลังจากนี้ ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี จะลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อดำเนินการเก็บกากของเสียจากหน้าดินออกให้หมด รวมทั้งจะเก็บตัวอย่างน้ำอีกครั้ง เพื่อทดสอบหาสารปนเปื้อนต่อไป

ทั้งนี้ จากจุดที่พบการลักลอบนำกากของเสียมาทิ้ง ชาวบ้าน ตั้งข้อสังเกตว่า ถนนเลียบคลองหนองไร่ - บุญญานุศาสน์ เป็นถนนลูกรังสำหรับภาคการเกษตร ค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีบ้านพักอาศัย และ อยู่ห่างจากชุมชนประมาณ 1 กิโลเมตร จึงทำให้มีการลักลอบนำขยะมาทิ้งเป็นประจำ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้ที่ลักลอบนำกากของเสียดังกล่าวมาทิ้ง น่าจะเป็นคนที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี แต่ไม่อาจระบุได้ว่า มาจากโรงงานใด เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่รอยต่อถึง 3 จังหวัด คือ ราชบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี

จนท.สิ่งแวดล้อม เผย ผลตรวจกากขยะที่ถูกทิ้งที่ จ.ราชบุรี พบ แอมโมเนียและโลหะหนัก