เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง ยืนยัน ผลตรวจอาวุธปืนบ้าน นายเปรมชัย กรรณสูต ไม่เกี่ยวข้องกับการยิงช้างป่ากุยบุรี แต่พบ 6 กระบอก ครอบครองผิดกฏหมาย เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ ออกหมายเรียกเปรมชัย รับทราบข้อกล่าวหา ที่ 10 เป็นครั้งที่ 2

ผลตรวจปืนยึดจากบ้าน "เปรมชัย" พบผิดกฏหมาย 6 กระบอก

พลตำรวจตรี ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำปืนยาว 6 กระบอก จากทั้งหมด 43 กระบอก ที่ยึดจากบ้านพักของ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทและกรรมการ อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาคดีลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี

เข้ารายงานผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ วิถีกระสุน คราบเขม่า และ ลายนิ้วมือแฝง กับ พลตำรวจเอ กศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เบื้องต้น พบปืนมีทะเบียน แต่นายทะเบียนไม่สามารถจดทะเบียนครอบครองได้ 1 กระบอก และ เป็นปืนประกอบเอง 1 กระบอก ส่วนที่เหลือ 4 กระบอก เป็นปืนที่ไม่พบการจดทะเบียน และ ไม่มีหลักฐานการขออนุญาตครอบครอง จะตรวจสอบประวัติการจดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง

ตำรวจจ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม "เปรมชัย" ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน 

ขณะที่ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ บอกว่า ปืนที่ยึดได้ทั้งหมด เป็นหลักฐาน ที่จะแจ้งข้อหา กับนายเปรมชัย ฐาน ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีทะเบียน เป็นสำนวนที่แยกออกมาจากสำนวนคดีที่ลักลอบล่าสัตว์ป่า

ส่วนอีก 37 กระบอก มีเอกสารถูกต้องครบถ้วน แต่ให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เก็บตัวอย่างกระสุนจากปืนทุกกระบอกเพื่อเป็นฐานข้อมูลแล้ว หากพบการล่าสัตว์ในจุดใดน่าสงสัยจะได้ตรวจเทียบได้

สำหรับการดำเนินคดีฐานติดสินบนเจ้าพนักงาน ตำรวจ ปปป. จะเรียกตัว นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก พร้อมพวก 3 คน มาให้ข้อมูลวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 10.00 นาฬิกา

พฐ.ยันปืนไรเฟิล"เปรมชัย" ไม่โยงยิงช้างกุยบุรี

พร้อมกันนี้ พลตำรวจตรี ธวัชชัย บอกถึง ข้อสงสัยว่า ปืนไรเฟิลของ นายเปรมชัย ที่ใช้กระสุนขนาด จุด 375 อาจเกี่ยวข้อง หรือ เป็นปืนที่ใช้ยิงช้างป่า ที่ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพบหลักฐานหัวกระสุนขนาด จุด 375 เหมือนกัน ว่า ได้ตรวจพิสูจน์หัวกระสุนแล้ว โดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน 7 ยืนยันผลว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน

สำหรับการตรวจปืนที่จุดเกิดเหตุ ยิงเสือดำนั้น ผลตรวจพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 ตกบริเวณที่เกิดเหตุ ตรงกับปืนลูกซอง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 กระบอกของ นายเปรมชัย ที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ ใน ซากเสือดำ พบถูกยิงกระสุนลูกปราย ทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบยาก ว่า ยิงจากปืนกระบอกใด แม้ไม่สามารถชี้ได้ แต่ในที่เกิดเหตมีปืนก็ชัดเจนแล้ว

ออกหมายเรียก"เปรมชัย-พวก" รอบ2 รับทราบข้อกล่าวหา ทารุณกรรมสัตว์ 22ก.พ.นี้

ขณะที่ พลตำรวจตรี กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ได้ประสาน ทนายความส่วนตัวและนายประกันของนายเปรมชัย เพื่อเรียก นายเปรมชัยพร้อมพวก มาให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมรับทราบข้อกล่าวหา ทารุณกรรมสัตว์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 9 นาฬิกา ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แจ้งข้อหาเพิ่ม

โดนก่อนหน้านี้ ออกหมายเรียกครั้งแรกให้มาพบวันที่ 15 กุมภาพันธ์ แต่ทนายแจ้งว่ามีเหตุขัดข้อง จึงขอเลื่อน และตำรวจได้ออกหมายเรียกอีกครั้ง หากยังไม่มา จะแจ้งต่อศาลถึงพฤติการณ์ เพื่อใช้ดุลพินิจในการพิจารณาสั่งการต่อไป

พร้อมกันนี้เตรียมประสาน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อจำลองแนววิถีการยิงเสือดำ ในวันศุกร์นี้

รมว.ทส. ยัน 9 ข้อหา "เปรมชัย-พวก" หลักฐานแน่นหนา

ส่วน พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) บอกว่า การดำเนินคดีนายเปรมชัยและพวก 9 ฐานความผิด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปแล้วนั้น มีพยานหลักฐานที่แน่นหนามาก ส่วนคดีอื่น ที่จะมีการแจ้งความเพิ่มเติม ก็อยู่ที่ตำรวจจะสืบสวนต่อไป

ส่วนเรื่องการดำเนินคดี เกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่า ทั้งในพื้นที่ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และ สนามกอล์ฟเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เป็นเรื่องที่กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ