"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" กำชับฝ่ายความมั่นคงทำคดี "นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" โปร่งใส รอบคอบ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่และกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งขอให้สังคมได้ติดตามตรวจสอบไปพร้อมกัน ย้ำรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับการหลบหนี

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการ คดี นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนี ว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการด้วยความรอบคอบ ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ และชี้แจงให้สังคมได้รับทราบเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง

ส่วนจะเชื่อมโยงหรือขยายผลไปถึงอดีตนายตำรวจระดับสูงหรือบุคคลใดอีกหรือไม่ ก็จะต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจน โดยรัฐบาลยืนยันถึงความโปร่งใสและไม่เคยเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ จึงขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ และกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งขอให้สังคม ได้ติดตามตรวจสอบไปพร้อมกันด้วย

ขณะที่ พันตำรวจเอกเกียรติพงษ์ นาลา รองผู้บังคับการ ตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) และประธานการสืบสวนข้อเท็จจริง กล่าวถึงการสอบสวน พันตำรวจเอก ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการ ตำรวจนครบาล 5 ที่เกี่ยวข้องกับการพา นางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนี ว่า ในวันที่ 25 กันยายนนี้ จะเรียกประชุม คณะกรรมการทั้งหมด ที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อวางแนวทางการสืบสวน โดยจะมีการกำหนดประเด็นคำถาม การสอบพฤติกรรม และระบุตัวบุคคลที่จะเรียกสอบ

เบื้องต้นจะยังไม่เรียก พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ มาสอบสวน แต่จะประสานขอข้อมูลจากทีมงานของ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่สืบสวนจนพบความเชื่อมโยง และพฤติกรรมของตำรวจที่เกี่ยวข้องแล้ว จากนั้นจะดำเนินการสอบสวนภายในระยะเวลา 60 วัน แต่หากไม่แล้วเสร็จ สามารถเสนอขยายเวลาเพิ่มได้อีก 60 วัน

ทั้งนี้หากพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงอีก จะเสนอชื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา เพื่อเรียกตัวมาให้คณะกรรมการมาเพิ่มเติม และจะเสนอข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบพบให้ผู้บังคับบัญชาการตามลำดับชั้น

พันตำรวจเอกเกียรติพงษ์ ยังกล่าวว่า ยืนยันไม่หนักใจในการเป็นประธานสืบสวนข้อเท็จจริง โดยจะดำเนินการตามพยานหลักฐาน ส่วนที่ถูกวิจารณ์ ว่าประธานการสืบสวน มีระดับชั้นยศเท่ากันกับผู้ถูกสอบนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ตามกฎหมาย และมั่นใจว่าจะไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายใด แม้ผู้เกี่ยวข้องสำคัญในคดีจะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีก็ตาม

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีการจับกุมบุคคลผู้ที่ช่วยเหลือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ว่า หากรัฐบาล ทำเรื่องนี้ออกมาให้เกิดกระจ่างจริง ก็จะทำให้เห็นกระบวนการในการหลบหนี ว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง อย่างน้อยเป็นบทเรียนให้กับฝ่ายความมั่นคง ที่ต้องคิดว่า ต้องทำอย่างไรในทางการข่าวเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หากมีการดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องจริง เชื่อว่ามีกฎหมายระบุไว้ชัดในความรับผิด แต่ควรสอบสวนให้ลงลึกไปในรายละเอียดว่า มีบุคคลใดบ้างเกี่ยวข้อง "อย่าละเว้นหรือทำแบบลูบหน้าปะจมูกในยามที่สังคมให้ความสนใจต่อกรณีนี้" เพื่อให้กฎหมายบ้านเมืองศักดิ์สิทธิ์ ไม่เช่นนั้นประชาชนจะคิดได้ว่าคุกมีไว้เฉพาะคนจน

ขณะที่ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ถึงความคืบหน้าในการติดตามเส้นทางการหลบหนีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอข้อมูลตอบกลับจากตำรวจสากล 190 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศดูไบด้วย ขณะเดียวกัน ไม่ขอตอบกรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังคงหลบอยู่ที่ดูไบหรือไม่ และไม่มีความชัดเจนว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ จะเดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะมีการตัดสินคดีจำนำข้าว ในวันที่ 27 กันยายน 2560 นี้

แต่ได้สั่งการและวางมาตรการเต็มที่ สำหรับดูแลความสงบเรียบร้อยไว้พร้อมแล้ว ส่วนมวลชนที่จะเดินทางมาที่ศาลฯ ขอความร่วมมือ อย่าสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย

ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเตรียมตัวของทีมทนาย ในการรับฟังคำพิพากษาดีโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 27 กันยายนนี้ ว่า ทนายความจะเดินทางไปตามปกติ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากนางสาวยิ่งลักษณ์

ทั้งนี้หากนางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางมาก็ไม่มีผลใดๆ เพราะศาลสามารถอ่านคำตัดสินลับหลังจำเลยได้ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย

"นายกฯ" กำชับฝ่ายความมั่นคงทำคดี "ยิ่งลักษณ์" รอบคอบ