นายกรัฐมนตรี ชี้แจงลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจรในต่างจังหวัด ไม่ได้หวังผลทางการเมือง และไม่ได้ไปทำประชานิยม เพียงแต่ต้องการไปรับฟังปัญหาที่แท้จริงจากประชาชนในพื้นที่

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า ประชาชนที่รักในการบริหารราชการแผ่นดินนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเชื่อมโยง และสอดคล้องกัน จากระดับท้องถิ่น จังหวัด ภาค และประเทศ ดังนั้นรัฐบาลมีความจำเป็นและเห็นความสำคัญอย่างมาก ในการลงพื้นที่ทุกภูมิภาค เพื่อพบปะกับประชาชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับทราบปัญหา ซึ่งทุกครั้งที่ไป ไม่ใช่ว่า จะไปพบและพูดคุยกับพี่น้องประชาชนทุกคน แต่ตนได้ให้มีการจัดตั้งศูนย์รับการร้องเรียนหรือปัญหาต่างๆ สำหรับประชาชนที่อาจไม่มีโอกาสได้พบกับตนเองโดยตรง ซึ่งหลายปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมา ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ได้แก้ปัญหาไปแล้ว

จึงขออย่าไปมองว่า ตนลงพื้นที่ เพื่อจะไปทำงานการเมือง หรือ ไปทำประชานิยม หรือ ไปเรียกคะแนนเสียง เพียงแต่ต้องการทราบความต้องการที่แท้จริงของประชาชนโดยตรงตามแนวทางศาสตร์พระราชา

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาควิชาการ และสื่อมวลชน เป็นความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ ซึ่งเราต้องปรับตัวเข้าหากัน เพราะกุญแจสู่ความสำเร็จ คืออุดมการณ์ในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ที่เป็นเป้าหมายเดียวกัน

สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็น คือ ตนได้มีโอกาสพบกับบรรดานักการเมือง จากพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีความยินดีที่มีการพบปะพูดคุยกัน ซึ่งนั่นเรียกว่า การปรองดอง คือ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาเป็นพวกกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เพียงแต่ว่า เราจะร่วมมือกันได้อย่างไร ซึ่งตนยินดีจะพบปะพูดคุยกับทุกคน เว้นแต่บางท่าน หรือบางพรรคไม่อยากคุยด้วย ตนก็ไม่ทราบว่า จะทำอย่างไร

วันนี้ตนพยายามที่จะลดข้อขัดแย้ง ที่หลายคนเรียกร้อง ว่ารัฐบาลไม่พูดไม่คุย และไม่ฟังใคร ไม่ฟังนักการเมืองอะไร แต่เมื่อตนฟังนักการเมือง กลับหาว่า ตนจะพยายามดึงนักการเมืองมาเป็นพวกอีก แต่ความจริงตนต้องการพูดคุยกัน เพื่อให้เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ และเมื่อนักการเมือง เข้ามาบริหารประเทศจะได้รับไปสานต่อให้สำเร็จ เพราะรัฐบาล คสช.ไม่สามารถจะทำให้สำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น เพราะบางอย่างมีปัญหามานานหลายสิบปี

นายกฯรายการศาสตร์พระราชา