ผู้เสียหาย โพสต์ข้อความโวยตำรวจ สน.คันนายาว ทำร้ายร่างกาย ใช้ปืนจ่อหัวข่มขู่ยัดยาเสพติด แต่เมื่อตรวจปัสสาวะ ไม่เจอสารเสพติด จึงพยายามให้ค่าทำขวัญ 5 พันบาท แต่เจ้าตัวไม่ยอมต้องการเอาเรื่อง

นายนรพันธ์ ศรีวิเชียร โพสต์ภาพ ถูกทำร้ายร่างกาย เป็นรอยรอยช้ำแดงที่บริเวณคอ และ ได้รับบาดเจ็บ บริเวณข้อมือขวา พร้อมทั้งระบุว่า ถูกทำร้ายจากชุดจู่โจมของ สน.คันนายาว บุกเข้ามาจับตัว เมื่อเวลาประมาณ ตี 2 คืนวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ตำรวจพยายามยัดยาเสพติด หลังตรวจฉี่ไม่พบมีการใช้สารเสพติด ก็ปล่อยตัวพร้อมจะให้ค่าทำขวัญ 5,000 บาท

นายนรพันธ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองได้จอดรถและคุยโทรศัพท์กับเพื่อน จากนั้นมีคนมากระชากโทรศัพท์จากด้านหลัง พร้อมนำปืนมาจ่อที่หัว พร้อมกับยึดกระเป๋าเงิน กุญแจรถ โทรศัพท์มือถือ ขณะนั้นตกใจมาก เพราะคิดว่าถูกปล้น โดยคนกลุ่มนี้ยังจับตัวผู้หญิงอีกคนและมาใส่กุญแจมือคู่กัน

ตนเองพยายามเรียกให้คนแถวนั้นช่วย แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่กระชากและตบเข้าที่ใบหน้าตน จากนั้นเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ได้นำบัตรให้ดูจึงรู้ว่าเป็น ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ราย พยายามจะยัดยาเสพติด บอกกับตนว่า ตำรวจค้นเจอในกระเป๋า ตนเองจึงได้ปฏิเสธ เพราะไม่เคยยุ่งกับยาเสพติด และ ไม่ทราบว่ายาดังกล่าวคืออะไร

จากนั้นก็ถูกคุมตัวไปตรวจปัสาวะ ที่ สน.คันนายาว แต่ไม่พบ และ เจ้าหน้าที่ ก็ไม่ได้สอบปากคำตนเอง ก่อนจะปล่อยตัวในเวลา 06.00 นาฬิกา พร้อมบอกให้ตนไปเอาทรัพย์สิน แต่ปรากฏว่า เงินในกระเป๋าตนหายไป 1 พันบาท ต่อมาก็มีตำรวจบอกจะให้ค่าทำขวัญ 5 พันบาท แต่ตนไม่รับเพราะจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ต่อมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามข้อมูลไปยัง พันตำรวจเอก สิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับ สน.คันนายาว ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดที่คอนโดฯแห่งหนึ่งย่านวัชรพล ตำรวจชุดจู่โจม สน.คันนายาว ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขายยาเสพติด จึงวางแผนเข้าจับกุม เมื่อถึงเวลาเกิดเหตุ นายนรพันธ์ (ผู้โพสต์คลิป) ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาและมาเจอผู้หญิง มีท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปขอตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัย มีท่าทีขัดขืนต่อสู้และจะหลบหนี ต่อมามีชายอีกคน เข้ามาโวยวายและถามนายนรพันธ์ ว่า "มาหาเมีย(กู)ทำไม" และ จะตรงเข้ามาทำร้าย นายนรพันธ์ เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว นายนรพันธ์ เอาไว้ พร้อมนำตัวมาตรวจหาสารเสพติด แต่ไม่พบ ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือค่าทำแผลเป็นเงิน 5 พันบาท

ยืนยันว่า ชุดจู่โจมไม่ได้ทำร้าย นายนรพันธุ์ แต่บาดแผลนั้นเกิดจากความพยายามขัดขืน เบื้องต้นได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว และ ได้มีคำสั่งให้ ร้อยตำรวจเอกชนินทร์ ม้าแก้ว รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สน.คันนายาว หัวหน้าชุดจู่โจม ไปปฎิบัติหน้าที่งานธุรการจนกว่าการสืบสวนข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ

ด้าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่เห็นเหตุการณ์   ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำร้ายผู้เสียหาย  มีเพียงการกดหลัง เพื่อใส่กุญแจมือเท่านั้นเนื่องจาก ผู้เสียหาย  ขัดขืนไม่ยอมให้ความร่วมมือ กับตำรวจ และ ยังมีท่าทางมีพิรุท 

ล่าสุด นายนรพันธ์ ผู้เสียหาย ได้ออกมายืนยันว่า ตนไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว แต่เหตุผลที่ไปตึกดังกล่าว เพราะจะไปหาเพื่อนผู้หญิงอีกคน ตอนนี้ รู้สึกตนเสียหายมาก ที่ตำรวจไม่รู้ความจริง แล้วมาพูด และ ยืนยันที่จะเอาเรื่องชุดจู่โจมให้ถึงที่สุด

ขณะนี้กำลังปรึกษาทางครอบครัวเพื่อดำเนินการร้องเรียน เพราะถ้าเงียบไปเหมือนยอมรับผิด