ชาวบ้านวังเข จ.ร้อยเอ็ด อดรนทนไม่ไหว หลังถูกผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังเข แจ้งความจับข้อหาลักไม้พะยูงที่ล้มทับป้ายและรั้วโรงเรียน ทั้งที่มีการขอมติร่วมให้นำไม้ส่วนหนึ่งไปขาย เพื่อนำเงินมาซ่อมรั้วและป้ายโรงเรียนแล้ว

แกนนำชาวบ้านและกรรมการหมู่บ้าน บ้านวังเข ตำบลเหล่าน้อย อำเภอเสลภูมิ รวมตัวกันออกมาเรียกร้องผ่านสื่อ เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังเข แจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาค้าไม้พะยูง หลังจากชาวบ้านมีมติร่วมกันกับทางโรงเรียน ว่าให้นำไม้พะยูง ที่ล้มลงมาทับป้ายและรั้วโรงเรียนเสียหาย เพราะพายุพัด เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้ซ่อมแซมป้าย และ รั้วโรงเรียน

นายเสร็จ พลศิลา ประธานกรรมการหมู่บ้าน หนึ่งในผู้ถูกแจ้งความ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางชาวบ้าน ก็ได้ช่วยกันตัดไม้ออกเป็นจำนวน 26 ท่อน แล้วนำมากองไว้ พร้อมจัดเวรยามเฝ้าดูแลไม้พะยูงดังกล่าว ต่อมาเห็นว่า ไม่มีเงินซ่อมป้ายและรั้วโรงเรียนที่เสียหาย

หลังจากทิ้งไว้เกือบ 2 เดือนนั้น จึงได้ปรึกษากับหลายฝ่าย ทั้งป่าไม้จังหวัด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังเข และกรรมการหมู่บ้าน เพื่อขอขายไม้ส่วนหนึ่งมาเป็นรายได้ซ่อมแซม ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงเรียนก็เห็นด้วย

กระทั่งวันที่ 27 มิถุนายน ก็มีคนมาซื้อไม้พะยูง 2 ท่อน ชาวบ้านจึงตัดสินใจขายไปในราคา 700,000 บาท แล้วเอาเงินมาเข้ากองกลาง เพื่อซ่อมแซมโรงเรียน พร้อมกับมีมติว่า หากมีเงินเหลือจากการซ่อมป้ายและรั้วโรงเรียนแล้ว จะนำไปช่วยสร้างวัด แต่อยู่ๆ ทางผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังเข กลับไปแจ้งความจับพวกตน 4 คน ว่าลักขายไม้ของกลาง

จากนั้นชุดคุ้มครองป่าไม้ ตำรวจ และฝ่ายปกครองก็มาจับกุมตั้งข้อหาพวกตน 4 คน พร้อมกับยึดเงิน 700,000 บาทไปด้วย เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดี จนพวกตนเกิดความท้อใจ และ เลิกเฝ้าไม้ ทำให้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนร้ายมาขโมยไม้พะยูงไปอีก 2 ท่อน ชาวบ้านจึงมีมติว่า ขอให้ผู้เกี่ยวข้องมาขนเอาไม้ออกไปให้หมด เพราะชาวบ้านไม่อยากรับผิดชอบอีกต่อไปแล้ว

ชาวบ้านโวยถูก ผอ.รร.แจ้งจับ หลังร่วมลงมติขายไม้พะยูงล้มที่ทับโรงเรียน