ผลชันสูตรเบื้องต้นยืนยัน "เชสเตอร์ เบนนิงตัน" ฆ่าตัวตาย ส่วนเพื่อนร่วมวงเผย ทำใจไม่ได้กับความสูญเสีย ขณะที่ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เตือนภัย ภาวะซึมเศร้าเกิดกับใครก็ได้ ผู้ชายมีแนวโน้มเป็นมากกว่าผู้หญิง

เว็บไซต์ข่าวบันเทิงฮอลลีวูด ที-เอ็ม-ซี (TMZ) รายงาน อ้างผลการชันสูตรศพ โดยตำรวจลอสแองเจลิส ยืนยันว่า เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำ วงลิงคิน พาร์ก วัย 41 ปี ฆ่าตัวตาย ด้วยการใช้เข็มขัด และ สายยางยืดออกกำลังกาย รัดรอบคอตัวเอง ภายในบ้านพัก ในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ วันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยภายในห้อง เจ้าหน้าที่ พบขวดสุราเปล่า แต่ไม่พบหลักฐานการใช้ยาเสพติด และผู้ตายก็ไม่ได้ทิ้งข้อความ หรือ จดหมายลาตายเอาไว้

ด้านหัวหน้าวงลิงคิน พาร์ก ไมค์ ชิโนดะ ออกมาเปิดเผย ผ่านทวิตเตอร์ สั้นๆ ว่ายังทำใจไม่ได้กับความสูญเสีย โดยทาง วง ลิงคิน พาร์ก และต้นสังกัดของเบนนิงตัน กำลังร่วมกันร่าง ข้อความอาลัย และเตรียมแถลงแนวทางของวง อย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศหลายสำนัก อ้างถึงสาเหตุที่น่าจะนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ของเชสเตอร์ เบนนิงตัน โดยนอกจากจะเกิดจากภาวะโรคซึมเศร้า จากอดีตที่เลวร้าย ยังมีการเชื่อมโยงไปยัง การตายของเพื่อนสนิท "คริส คอร์เนลล์" นักร้องนำ วง "ออ-ดิ-โอ สะเลฟ" (Audioslave) ที่เพิ่งจะผูกคอตาย เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยเนื่องจากคริส เกิดวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันที่เบนนิงตัน ผูกคอตายเช่นกัน

ในส่วนของประเทศไทย นาวาอากาศตรี นายแพทย์ บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเสียชีวิตของนักร้องดัง ที่อาจจะเกิดจากภาวะซึมเศร้า

พร้อมเตือนประชาชนว่า โรคดังกล่าว เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนคิดสั้น โดยผู้ชาย มีอัตราการฆ่าตัวตายมากกว่าผู้หญิง ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้กว่า 1.5 ล้านคน ส่วนทั่วโลก องค์การสหประชาชาติระบุว่า มีผู้ป่วยโรคซึมเศร้ากว่า 300 ล้านคน

แพทย์จึงฝากเตือนประชาชนว่า ภาวะซึมเศร้า เป็นอาการของโรคชนิดหนึ่ง ที่ต้องรีบเข้ารับการรักษา เพราะสาเหตุ เกิดจากสารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติ ดังนั้น หากสมาชิกในครอบครัว มีอาการของโรค เช่น ซึมเศร้า ท้อแท้ น้อยใจ เก็บตัว อารมณ์แปรปรวน ให้รีบพูดคุยปรับทุกข์ และหากผู้ป่วยพยายามทำร้ายตัวเอง ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และปรึกษาจิตแพทย์ ทันที