เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทยเปิดแถลงการณ์ คัดค้านกฎหมายปิโตรเลียมที่จะนำเสนอข้าที่ประชุม สนช. สิ้นเดือนนี้

เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย แถลงการณ์คัดค้านกฎหมายปิโตรเลียม ที่กำลังจะนำร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียม และ ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ทั้ง 2 ฉบับ เข้าที่ประชุมในวันที่ 30 มีนาคม เพื่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบ

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ตัวแทนของเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ระบุว่าประเด็นสำคัญในการคัดค้านในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการให้สัมปทานปิโตรเลียมกำลังจะหมดอายุ และไม่สามารถจะต่ออายุสัญญาสัมปทานได้อีกตาม พรบ.ปิโตรเลียมฉบับเดิม โดยมีแหล่งปิโตรเลียม 2 แหล่ง คือ แหล่งเอราวัณ จะหมดอายุสัญญาสัมปทานในปี 2565 และแหล่งบงกช ที่จะหมดอายุสัญญาสัมปทานในปี 2566

โดยทั้ง 2 แห่ง ถือเป็นแหล่งปิโตรเลียมที่มีปริมาณก๊าซธรรมชาติรวมกันมากที่สุดในประเทศไทย หากอยู่ภายใต้กฎหมายเดิมที่ไม่สามารถต่ออายุสัมปทานใน 2 แหล่งนี้ให้กับผู้รับสัมปทานรายเดิม ทรัพย์สินทั้งหมดของผู้รับสัมปทาน ตลอดจนปิโตรเลียมจากทั้ง 2 แหล่งนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ

แต่ร่าง พรบ.ปิโตรเลียมที่กำลังจะพิจารณาผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับสัมปทานรายเดิม ไม่ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี

คัดค้านกฎหมายปิโตรเลียม เอื้อประโยชน์ผูกขาดเอกชน