ศาลปกครอง สั่งชะลอเปิดโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยให้รัฐบาลจัดทำรายงานประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ รับฟังความเห็นของประชาชน ก่อนอนุมัติเปิดโครงการเขื่อนแม่วงก์
วานนี้ (24พ.ย.) ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ องค์คณะตุลาการศาลปกครอง ได้พิจารณาคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำโดย นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมฯ และ ชาวบ้านรวม 151 คน ร่วมกันยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี อธิบดีกรมชลประทาน และรัฐมนตรีว่าการระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 ในเรื่องกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กรณีดำเนินการโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นโครงการ หรือ กิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ตามมาตรา 67 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
โดยศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี อธิบดีกรมชลประทาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการ หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพของประชาชนในชุมชน หรือ EHIA
ตามขั้นตอนของมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ภายใต้บังคับบทบัญญัติมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนอนุมัติเปิดโครงการเขื่อนแม่วงก์ ตามมติครม. เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 55 แต่คำพิพากษาของศาลปกครองกลางนี้ยังไม่ถือเป็นสุด โดยคู่ความยังสามารถยื่นอุทธรณ์โต้แย้งต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน
ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า คำสั่งของศาลปกครอง ถือว่าเป็นชัยชนะของประชาชน และเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ร่วมลงชื่อฟ้องร้องคดี ดังนั้นทางผู้ดำเนินการจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการสร้างเขื่อนแม่วงก์ คือต้องไปทำการศึกษาข้อมูลโครงการที่ต้องจัดทำรายงาน EHIA และจัดทำกระบวนการรับฟังความเห็นชาวบ้านให้เรียบร้อยครบถ้วนเสียก่อน