ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ปรากฏว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นหารือว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะนำไปปรับปรุงอีกสักครั้งหนึ่ง เนื่องจากหลังสภาฯ รับร่างกฎหมายฉบับนี้ มีการปรับปรุงแก้ไขทั้งร่าง จากเดิมมี 45 มาตรา เพิ่มเป็น 69 มาตรา และแก้เกือบทุกมาตรา จึงเห็นว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะนำร่างพรบ.ฉบับนี้ไปปรับปรุงหรือทบทวนอีกครั้ง เพราะจากที่รับร่างฉบับนี้มา ซึ่งเป็นร่างของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ร่างของ ครม. อาจไม่ได้รับความเห็นจากส่วนราชการต่างๆ หรือรับการตรวจจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขทั้งร่าง จากที่เสนอเข้ามาเป็นการแก้เกือบทุกมาตรา ก็อาจจะมีความไม่รอบคอบได้ และจากการพิจารณาในเนื้อของกฎหมายมีลักษณะที่ไม่ได้เป็นการควบคุมหรือใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้น่าจะนำไปสู่การควบคุมได้ดีที่สุด แต่ปรากฏว่า กฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีการควบคุมหรือให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ถึงขนาดมีข้อเรียกร้องจากศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติดของคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ทบทวนกฎหมายฉบับนี้ และนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกหรือไม่ หรือในบทบัญญัติมาตราอื่น ที่ให้ประชาชนปลูกได้โดยเสรี เพียงไปจดแจ้งเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ทางการแพทย์ แต่เป็นการสันทนาการ

"ถ้ากรรมาธิการกลับไปทบทวนร่างกฎหมายฉบับนี้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาก็จะมีเวลาทบทวนสิ่งต่างๆ ที่มีการทักท้วงมา"

ด้านนายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เรากลัวเด็ก ประชาชนไปเสพ ไปพี้ เดี๋ยวจะติดกัญชากันเยอะ ป้องกันการเสพได้ไหม ไปดูแล้วไม่ได้ป้องกันเลย ห้ามเพียงไม่ให้เสพในที่สาธารณะ แปลว่าเสพในบ้าน โรงแรม รีสอร์ตได้ และท่านไม่ได้ห้ามเด็ก เพียงแต่ห้ามจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ถ้าเด็กปลูกแล้วเสพที่บ้าน แสดงว่ามาโรงเรียนได้ อย่างนี้เรารับไม่ได้ เพราะไม่ใช่ทางการแพทย์แล้ว แต่เพื่อเป็นการสันทนาการ

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ. ชี้แจงยืนยันว่าทาง กมธ. พิจารณาร่างกฎหมายดีที่สุด และได้กำหนดมาตรการป้องกันไว้แล้ว ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ขอให้ถอนร่างกฎหมายออกไปก่อน เนื่องจากมีความหละหลวมนั้น ขอเรียนว่าในทางตรงกันข้าม กมธ.ไม่ได้หละหลวมแม้แต่น้อย เรารับฟังเสียงจากทุกภาคส่วน จึงเป็นร่างกฎหมายที่สมบูรณ์ที่สุดและมีการอุดช่องโหว่ เป็นกฎหมายที่ดีจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องถอนร่างออกไป จะบอกว่าให้กลับไปแก้ไข ตนก็ไม่รู้ว่าจะแก้อะไรเช่นกัน

จากนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ก็ได้เสนอญัตติซ้อน ขอให้ที่ประชุมเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวต่อไป ทำให้ สส.ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ทั้งสนับสนุนให้เดินหน้าต่อและสนับสนุนให้ถอนร่างฯ อย่างนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกมธ. กล่าวว่า ถ้านำร่างกฎหมายฉบับนี้ไปทบทวน เพื่อนำกลับมาพิจารณาใหม่ในการประชุมสภาฯ สมัยหน้า เชื่อว่าแม้กฎหมายฉบับนี้จะได้รับความเห็นชอบ แต่จะถูกยุบสภาไปก่อน กฎหมายก็ตกไปอยู่ดี จะนำกลับเข้ามาใหม่อย่างไรก็ล่ม ทุกคนก็ทราบกันอยู่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองไม่ต้องกลัวว่าพรรคใดจะได้คะแนนเสียง เพราะทุกคนทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดแต่เป็นเรื่องของประเทศ ขอให้เดินหน้าต่ออะไรที่ไม่ดีก็ค่อยๆ แก้ไป

สุดท้าย ที่ประชุมสภามีมติให้ ถอนออกจากระเบียบวาระการประชุม ด้วยคะแนน 198 ต่อ 136 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง