"ชัชชาติ" งง ถูกหยิบเรื่องเก่ากว่า 20 ปี มาร้อง กมธ.ป.ป.ช. ยันตอนนั้นเป็นวิศวกรที่ปรึกษา จุฬาฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประมูลร้านปลอดอากรในสุวรรณภูมิ มั่นใจความโปร่งใส ยินดีให้ตรวจสอบ ปัดวิจารณ์โดนร้องหวังผลดิสเครดิต ช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง กทม.

 

วันที่ 12 พ.ค.2565 - นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 กล่าวถึงกรณีมีคนไปร้องพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้สอบตนเองสมัยเป็นวิศวกรที่ปรึกษาของสถาบันทรัพย์สินทางปัญญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าโครงการร้านค้าปลอดอากรและโครงการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในสนามบินสุวรรณภูมิ

โดยนายชัชชาติ ยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินมูลค่าโครงการร้านค้าปลอดอากร และโครงการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เป็นเรื่องเมื่อ 18 ปีก่อน ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งวิศวกรที่ปรึกษาของสถาบันทรัพย์สินทางปัญญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยให้ทำการศึกษาโครงการ ต่อมาทราบภายหลังว่าโครงการถูกตรวจสอบโดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ผลปรากฎว่าไม่มีมูลความผิด และยุติกระบวนการการตรวจสอบไปตั้งแต่ พ.ศ. 2554

ทั้งนี้ ป.ป.ช. ก็ไม่เคยเชิญตนไปให้ข้อมูลหรือร่วมกระบวนการตรวจสอบ เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประมูลมูลค่า แต่หากคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร จะตั้งคณะกรรมการสอบ ตนเองก็ยินดีให้ความร่วมมือและพร้อมให้ข้อมูลเต็มที่

"ยินดีให้ กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบ เรามั่นใจว่าโปร่งใส และยืนยันว่าเรื่องผ่านไปประมาณ 18 ถึง 19 ปีมาแล้ว เราไม่เกี่ยวกับการประเมินราคาใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเราไปในฐานะวิศวกรที่ปรึกษา ภายหลัง ป.ป.ช. สรุปแล้วว่าไม่มีมูลและยุติเรื่องไปตั้งแต่ปี 54 จริง ๆ เราไม่รู้รายละเอียด เพราะเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่เคยถูกเชิญไปสอบหรือให้ข้อมูล"

นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมกับสื่อมวลชนว่า ไม่รู้จัก อรรถสิทธิ์ กาญจนโอภาษ เป็นการส่วนตัว และไม่ทราบว่าเจตนาที่แท้จริงของการยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธาน กมธ. ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องนี้จะเป็นการร้องเพื่อดิสเครดิตทางการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม.หรือไม่

พร้อมกล่าวว่า หากการกระทำของบุคคลใดที่มีจุดประสงค์ทางการเมือง หรือมีผลต่อความนิยมของผู้สมัครลดลง ถือว่าขัดต่อกฎหมายและมีผลทางอาญา ขณะนี้ให้ฝ่ายงานกฎหมายตรวจสอบ ส่วนจะฟ้องดำเนินคดีกับหรือไม่ ขอรอดูรายละเอียดก่อน

ด้านฝ่ายงานกฎหมาย ชี้แจงเพิ่มเติมว่า นายชัชชาติไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ เป็นเรื่องเก่าที่ยาวนานเกือบ 20 ปี และผ่านการตรวจสอบมาแล้วหลายครั้ง ยินดีพร้อมรับการตรวจสอบและเข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมาธิการ เชื่อมั่นในความยุติธรรมของกมธ.ป.ป.ช. และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การมาร้องเรียนนี้จงใจให้เป็นข่าวในช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ขออย่าให้เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อทำลายชื่อเสียงของผู้สมัครซึ่งอาจผิดกฎหมายและมีโทษอาญา ที่สำคัญคือประชาชนต้องมีภูมิคุ้มกัน ไม่เป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง