สองรัฐมนตรีเกษตร ไทย-ญี่ปุ่น "เฉลิมชัย" ผนึกกำลัง "เก็นจิโร" ดันส่งออกสินค้าเกษตรไทยพุ่ง 130,000 ล้านบาท หนุนเกษตรอัจฉริยะ กระชับความร่วมมือระบบอาหารยั่งยืนร่วมกัน


วานนี้ (5 พฤษภาคม 2565) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายเก็นจิโร คาเนโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมี นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมการหารือความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทย ส่งเสริมความร่วมมือเกษตรอัจฉริยะ รวมทั้งร่วมเสริมสร้างการพลิกโฉมระบบอาหารของไทยและญี่ปุ่น เพื่อความยั่งยืนสอดคล้องกับโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model)

"การพบปะหารือระหว่างสองนายกรัฐมนตรีไทย-ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา รวมถึงการได้หารือกับ รมว.เกษตรฯ ญี่ปุ่นในวันนี้ เป็นโอกาสที่ดีในการกระชับความสัมพันธ์ด้านการเกษตรระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ภายหลังรัฐบาลไทยได้ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ อีกทั้งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันแบบ 'physical meeting' โดยในปีนี้เป็นปีที่ครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 135 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้มีความร่วมมือระหว่างกันในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเกษตรในระดับทวิภาคี ระดับพหุภาคี และระดับองค์การระหว่างประเทศ" ดร.เฉลิมชัย กล่าว

ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญอันดับ 2 ของไทย ในระหว่างปี 2562-2564 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปญี่ปุนประมาณร้อยละ 11.35 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลกการส่งออก เฉลี่ยปีละ 144,820 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เนื้อไก่ปรุงแต่ง ชิ้นเนื้อไก่แช่แข็ง อาหารสัตว์เลี้ยง ปลาทูนา ปลาสคิปแจ็ค และปลาโบนิโต และยางแผ่นรมควัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ไทยได้ตุลการค้าสินค้าเกษตรกับญี่ปุ่นมากกว่า 130,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในที่ประชุม รมว. เกษตรฯ สองฝ่ายแสดงความยินดีที่การหารือด้านเทคนิคของการปรับมาตรการนำเข้ามังคุดและส้ม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรของทั้งสองฝ่าย โดยเร่งรัดให้สามารถปรับใช้ได้ภายในปี 2565

สำหรับการปฏิรูประบบอาหารยั่งยืน ทั้งสองฝ่ายมีนโยบายที่สอดคล้องกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการขับเคลื่อนภาคการเกษตรด้วย BCG Model เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรสู่ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมผสานภูมิปัญญา มุ่งยกระดับผลผลิตเกษตรสู่มาตรฐานสูง ครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพ โภชนาการ ความปลอดภัย และระบบการผลิตที่ยั่งยืน และการทำการเกษตรเป็นอาชีพที่สร้างรายได้สูงด้วยการผลิตสินค้าเกษตรที่เน้นความเป็นพรีเมี่ยม มีความหลากหลาย และกำหนดราคาขายได้ตามคุณภาพของผลผลิตเกษตร โดยฝ่ายญี่ปุ่นเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือในการร่วมศึกษาและวิจัยด้านวิชาการเกษตร รวมทั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของการผลิตสินค้าเกษตรและระบบอาหาร เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 รวมทั้งยินดีสนับสนุนแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรให้เป็นที่นิยมและความต้องการของตลาดในประเทศต่าง ๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของโลก

นอกจากนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นประสงค์สนับสนุนความร่วมมือด้านเกษตรอัจฉริยะกับไทย ด้วยการปรับใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตร เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งให้ภาคเกษตร และเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกรไทย โดยปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นหลายรายอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนาโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือร่วมกันต่อไป ถึงแนวทางการส่งเสริมการเข้าถึงและความคุ้มทุนในการปรับใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะให้แก่เกษตรกร