“จุรินทร์” ปลุกสภาหอการค้าทั่วประเทศ สู้ ๆ ! โชว์วิสัยทัศน์นำเศรษฐกิจไทยไปโลดด้วยนโยบาย “รุก-ลึก”

 

5 พ.ค. 2565 เวลา 14.45 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การสนับสนุนการค้าของไทยกับนานาชาติ” ในงานสัมมนาสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย “Enhance the Dots” พร้อมด้วยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ห้อง World Ballroom ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 กำลังจะย่างเข้าสู่ปีที่ 4 ที่ผ่านมาถือว่าเราประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการทำงานร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์ที่ตนรับผิดชอบ ประเทศไทยของเรากำลังเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤต ทั้งเศรษฐกิจ โควิดและมาเจอวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซ้อนมาอีก แต่เจอกันทั้งโลก ประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ตัวเลข IMF ก่อนเกิดวิกฤติรัซเซีย-ยูเครน คาดว่า GDP ปี 2565 จะโตได้ 4.4% แต่เมื่อมาเจอวิกฤตลดจาก 4.4 % เหลือ 3.6%

สำหรับประเทศไทยคาดการณ์ว่าปี 2565 GDP จะโตประมาณ 3.5-4.5% ล่าสุดประเมินเหลือ 3.5% การส่งออกยังจะคงเป็นพระเอกต่อไปในปี 2565 ปีที่แล้วการส่งออกคิดเป็น 58% ของGDP ซึ่งเป็นสินค้า 53% บริการ 5% เดิมเหมือนเราตั้งเป้าส่งออกปี 2565 น่าจะโตได้ 3-4% แต่ตัวเลขส่งออกของไทยกลับกันกับ GDP โลก จะบวกเพิ่มขึ้น 6-8% แบงค์ชาติประมาณว่าส่งออกน่าจะโตได้ถึง 6% ซึ่งไตรมาสที่หนึ่งโตไป 15% แล้ว เดือน ม.ค.-มี.ค.นำเงินเข้าประเทศแล้ว 2.4 ล้านล้านบาท เฉพาะเดือน มี.ค.เดือนเดียวเป็น +20% ทำเงินเข้าประเทศ 9.2 แสนล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้าว่าจะนำเงินเข้าประเทศจากเดิม 8.5 ล้านล้านบาท ปีนี้จะทำให้ได้ 9 ล้านล้านบาทเป็นอย่างต่ำ

สำหรับ ไก่ ประสบความสำเร็จเพราะเรารุกมา 1 ปีเต็ม ตนเองเข้ามาสั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเร่งเจรจากับซาอุฯขอส่งออกไก่ ซาอุฯมาตรวจโรงงานไก่ และเมื่อท่านนายกไปเปิดสัมพันธ์ให้จึงวิ่งฉิว หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์เราส่งออกไก่ล็อตแรกในประวัติศาสตร์หลังจากไม่ได้ส่งมาเกือบ 20 ปีไปซาอุ ฯ ข้าว ปีที่แล้วส่งออกได้ 6.1 ล้านตัน ปีนี้มีโอกาสส่งออกไปถึง 7-8 ล้านตัน การส่งออกจึงยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
การท่องเที่ยวก็สำคัญวันนี้เราเริ่มนับหนึ่งแล้วจะเป็นตัวช่วยในการส่งออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก่อนโควิดท่องเที่ยวของไทยปี 62 คิดเป็น 11% ของ GDP ปี 63 เหลือ 2.7% และปี 64 เหลือเพียง 0.9% จากนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนช่วยกัน ตั้งเป้าว่าปีนี้ จะนำนักท่องเที่ยวให้ได้ 20,000,000 คน คือความหวังที่จะนำการท่องเที่ยวมาเป็นตัวช่วยการส่งออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย นอกจากการลงทุนภาครัฐ-เอกชน การบริโภคและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ปีนี้กระทรวงพาณิชย์มีการบ้าน 3 ข้อ
1. ต้องผลักดันการส่งออกต่อไปให้เข้มข้นขึ้น
2. ต้องช่วยดูแลราคาพืชผลการเกษตร สำหรับคนตัวเล็กคือเกษตรกรที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก ทำให้พวกเราเดินหน้าเศรษฐกิจฐานรากต่อไปได้
3. ดูแลค่าครองชีพของผู้บริโภคคนไทยทั้งประเทศ


จากนี้เราต้องเดินหน้าด้วยนโยบาย 2 ข้อผสมผสาน
1. นโยบายเชิงรุก Proactive Trade Policy
2. ต้องลึก ln-Depth Policy ทั้งเชิงรุกและเชิงลึกจะต้องไปด้วยกัน


สิ่งที่เกิดขึ้นคือ

1) กรอ.พาณิชย์ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ ทำให้เดินเป้าหมายไปสู่การส่งออก และต่อไปต้องมี กรอ.พาณิชย์ในแต่ละภาค ซึ่งเกิด กรอ.พาณิชย์ภาคใต้แล้ว เน้นเฉพาะปัญหาในแต่ละภาค จึงรุกและลึกมากขึ้น
2) เรื่อง FTA ปัจจุบันมีกับ 18 ประเทศ 14 ฉบับ ครอบคลุมมูลค่าการค้า 2 ใน 3 ของมูลค่าการค้าที่ไทยทำกับทั้งโลก แต่ต้องรุกและลึกมากขึ้น Mini-FTA ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม กับระดับรัฐและมณฑลหรือเมืองที่มีศักยภาพทางการค้า
3) ตนได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ทำแผนใหม่รุกและลึกขึ้น ปี 2565 พื้นที่ตลาดเป้าหมายจะเป็นเมืองไหนรัฐไหนหรือโซนไหนของประเทศที่จะทำตัวเลขพิเศษ เจาะสินค้า บริการ
4) การค้าชายแดน เปิดด่านแล้ว 48 ด่าน จาก 97 ด่านทั่วประเทศ จากนี้ไปเจาะลึกมาก ต้องการนำเงินเข้าประเทศให้เร็วที่สุด
5) สร้างคนรุ่นใหม่ อบรมให้ความรู้หลักสูตรพิเศษ เพื่อให้โตเป็นนายตัวเอง โครงการปั้น Gen Z เป็น CEO 2 ปีที่ผ่านมา ทำได้ 20,000 กว่าคน ปีนี้ทั้งปีจะทำให้ได้อีก 20,000 คน และมี CEO เชิงลึกสินค้า ทำให้เกิด CEO Gen Z ฮาลาล ที่จังหวัดชายแดนใต้ ปีนี้จะปั้นให้ได้ 1,000 คนเป็นแม่พักบุกตลาดฮาลาลในอนาคต ซึ่งนโยบายปี 65 รุก-ลึก ต้องดำเนินการเป็นรูปธรรม
และปีนี้ราคาพืชเกษตรดีเกือบทุกตัว

เมื่อวานตนเองประชุมส่งออกผลไม้เปลี่ยนแผนเพราะติดอุปสรรคการส่งทางบก เนื่องจากนโยบายซีโร่โควิดของจีน ซึ่งเรื่องหนึ่งที่แก้ไม่ได้คือการสั่งให้รัฐบาลจีนเปลี่ยนนโยบาย ต้องยอมรับว่านโยบายซีโร่โควิดยังอยู่กับเรา ตราบที่จีนยังไม่เปลี่ยนนโยบาย ซึ่งภายในเงื่อนไขจำกัดนี้ เมื่อไหร่ที่ด่านปิดเรารีบเจรจาให้เปิด แผนการส่งออกปีนี้เปลี่ยนจากทางบก 48% มาเหลือ 10.5% และเพิ่มทางเรือจาก 52% เป็น 83% และทางอากาศจากไม่ถึง 1% เป็น 6.5% และจากนี้ได้ตั้งวอรูมให้ผู้ประกอบการทุกฝ่ายมีการประชุมตลอด และตนได้เปิดพาณิชย์ Fruit Festival 2022 กว่า 10,092 จุดจำหน่ายผลไม้ในประเทศ และสุดท้ายเรื่องค่าครองชีพเป็นการบ้านข้อใหญ่ ซึ่งเจอกับทุกประเทศในโลก เนื่องจากเงินเฟ้อ ราคาขึ้นเพราะราคาน้ำมัน พลังงานเพิ่มสูงขึ้น ต้องจับมือกันแก้ทั้งรัฐบาลและกระทรวงอื่น ๆ ทั้งภาคเอกชน

“หลักของตนคือ 3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราคาสินค้า

1.ต้นน้ำเกษตรกร
2.กลางน้ำผู้ประกอบการกับผู้ส่งออก
3.ปลายน้ำผู้บริโภค ซึ่งผลประโยชน์ย้อนแย้งกันอยู่

ตนเองจะใช้ วิน-วินโมเดล ทำอย่างไรให้ทั้ง 3 ฝ่ายอยู่กันได้ด้วยดี แม้บางฝ่ายอาจจะต้องลดผลประโยชน์ลงไปบ้างแต่ให้อยู่ได้ ด้วยความยุติธรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและประโยชน์ของประเทศ ตนมั่นใจว่าในการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสภาหอการค้า สภาหอการค้าต่างประเทศและจังหวัด พวกเราทุกคนจะช่วยกันจับมืออย่างเข้มข้นภายใต้นโยบายเชิงรุกและเชิงลึก ให้ฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ขอให้สภาหอการค้าทั่วประเทศสู้ๆ ตนมั่นใจว่าจะฝ่าวิกฤติซ้อนวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยสวัสดิภาพทุกคน”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดตั้ง กรอ.พาณิชย์และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและฟังว่าอุปสรรคอยู่ที่ไหน มีการประชุมสม่ำเสมอ จนทำให้ปีที่แล้ว จากที่คาดว่าการส่งออกจะโตได้แค่ 4% แต่ในที่สุดก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ประเทศไทยสามารถส่งออกโตได้ถึง 17% ซึ่งไม่ใช่สิ่งบังเอิญ เราชื่นชมกับท่านรองนายกฯของเราเป็นอย่างมาก จะเห็นว่าแม้ปีที่แล้วจะมีการส่งออกเป็นบวกถึง 17% แต่ปีนี้ตั้งเป้าไว้อีก 4% แต่ไตรมาสที่หนึ่งที่ผ่านมา การส่งออกยังไงเติบโตต่อถึง 15% ซึ่งท่านได้มีการปลดล็อก
หลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรีไปเปิดประเทศกับซาอุดิอาระเบีย เรื่องเนื้อไก่ท่านใดที่ปลดล็อกภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ทำให้ซาอุดิอาระเบีย อนุญาตให้เนื้อไก่ของไทยสามารถนำเข้าซาอุดิอาระเบียได้ เราขอขอบพระคุณและชื่นชมผลงานของท่านรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์