'สนธิรัตน์' ลั่น 'พรรคสร้างอนาคตไทย' ไม่ใช่พรรคอะไหล่ของใคร ประกาศชัด ไม่มีชื่อ 'ประยุทธ์' ชิงนายกฯ ในนามพรรค ขณะ 'อุตตม' เชียร์ 'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' เหมาะสมนั่งแคนดิเดต นายกฯ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ

 

นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตอบคำถามสื่อมวลชน หลังเปิดตัว "พรรคสร้างอนาคตไทย" โดยประกาศลั่นจุดยืน จะไม่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เนื่องจากพรรคมีหลักเกณฑ์ในการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตอยู่แล้ว คือ ต้องเป็นที่ยอมรับของผู้คน และสามารถทำให้เกิดการนำพาประเทศไทยแข่งขันกับนานาประเทศได้

โดย นายอุตตม กล่าวยอมรับว่า เคยทำงานกับพลเอกประยุทธ์ แต่ตอนนั้นเข้าไปทำงานให้บ้านเมือง แต่เมื่อเงื่อนไขการเมืองเปลี่ยน เราก็ออกมา และมาทำพรรควันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง

"วันนี้เราทำพรรค ถามว่าทำให้ใครไหม ทำให้ประชาชนนะครับ ไม่ได้ทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งทั้งนั้น ไม่มีนะครับ เป็นการรวมตัวของบุคคลที่อาสามาทำงานให้ประเทศชาติ อันนี้ชัดเจนนะครับ พวกผมเดินออกมาแล้ว ไม่หันหลังกลับ"

ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราเคยเป็นผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ มันก็เหมือนวันนี้ที่เรามาร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย เรามีอุดมการณ์ในการทำการเมือง เราประกาศตัวเสมอว่า เราไม่ใช่นักการเมือง ที่ตั้งใจเข้ามาทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้อง ในกรณีของพลเอกประยุทธ์ ท่านเคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา แต่ท่านพูดเมื่อวานนี้ชัดเจนแล้วว่า ท่านไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งเป็นเรื่องจริง

"สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นจุดชัดเจนนะครับ เราไม่ได้ทำพรรคเพื่อที่จะสืบทอดในเรื่องของอำนาจ กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราทำพรรคเพื่อให้พรรคนี้เป็นหนึ่งในตัวแทนของพี่น้องประชาชน ที่จะเข้ามาแก้ปัญหา และที่ยืนยันได้กับพี่น้องสื่อมวลชนนะครับ เราจะไม่เสนอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคครับ ... อันนี้ไม่ได้ข้อขัดแย้ง แต่เป็นจุดยืนของพรรค จะไม่เสนอชื่อนายกประยุทธ์เป็นแคนดิเดต นายกของพรรค"

เมื่อถามย้ำว่าจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ใช่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตอบตรง ๆ ท่านไม่ทอดทิ้งพวกเรา ส่วนตัวคิดว่าท่านเหมาะสม แต่เมื่อพรรคเป็นการก่อตั้งจากทุกคน จึงต้องช่วยกันพิจารณา แต่ยืนยันจะเสนอครบทั้ง 3 ตำแหน่ง หนึ่งในนั้นเป็นหัวหน้าพรรค แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เลือกหัวหน้าพรรค ดังนั้น ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการ

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า เราไม่ได้ตั้งพรรคขึ้นมาเป็นพรรคเฉพาะกิจ หรือเป็นพรรคให้กับผู้ใดผู้หนึ่ง ไม่ได้ตั้งพรรคเป็นอะไหล่ให้ใคร แต่เราตั้งพรรค พิจารณาสรรหาบุคคลที่หลากหลายมาร่วมอุดมการณ์ "เราไม่ฝักใฝ่เลือกใคร ไม่คิดเป็นอะไหล่ของใคร"

นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงประเด็นการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ว่า เป็นอำนาจของนายกฯ  เมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากสภา ก็เป็นหน้าที่นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนพรรคต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ในการส่งผู้สมัคร ส.ส. ลงทำการแข่งขัน พรรคขอทำหน้าที่ระดมผู้คนให้พร้อมในการเปลี่ยนแปลง