อดีตแคดดี้สาวหน้าตาดีวัย 31 ปี แคดดี้ประจำสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เข้าร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังถูกคนร้ายดักสาดน้ำกรดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและใบหน้าเสียโฉม เหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 3 เดือน คดียังไม่คืบหน้า

 

วันที่ 18 ม.ค.2565  คุณธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้สื่อข่าวช่อง8 ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับผู้เสียหาย พบสภาพบาดแผล ที่เกิดขึ้น หลังถูกคนร้ายใช้น้ำกรดสาดเข้าที่บริเวณใบหน้า จนทำให้เป็นแผลลักษณะคล้ายแผลไฟไหม้ ตั้งแต่บริเวณศรีษะ ใบหน้าและดวงตา ซึ่งแม้จะไม่ถึงกับตาบอด แต่ก็ไม่สามารถปิดเปลือกตาได้หนึ่งข้าง นอกจากนั้นลำตัวและแขนทั้ง 2 ข้างก็เป็นแผลฉกรรจ์

ผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายนของปีที่ผ่านมา จู่ ๆ มีคนโทรศัพท์มาหา สอบถามว่าสนใจกู้เงินหรือไม่ ซึ่งเธอก็ไม่ได้เอะใจ เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งไปยื่นเอกสารที่ธนาคารแห่งหนึ่ง จึงตอบไปว่าสนใจ ปลายสายจึงนัดให้ไปพบที่อำเภอบางละมุง

เมื่อเธอไปถึงก็พบชาย 2 คน รูปร่างอ้วนและผอมขี่รถจักรยานยนต์ทำทีนำเอกสารมายื่นให้ ระหว่างนั้นเธอสังเกตเห็นว่าหนึ่งในนั้น ถือแก้วเก็บความเย็นแก้วใหญ่มาด้วยโดยมือที่ถือแก้วใส่ถุงมือมาถึง 2 ชั้น แต่ไม่ทันที่จะถามคนร้ายก็ตรงเข้ามาสาดน้ำกรดที่อยู่ในแก้วใส่เข้าที่ใบหน้าและลำตัว จนแสบร้อนอย่างหนัก เธอจึงรีบขับรถกลับไปขอความช่วยเหลือจากญาติ โดยหลังเกิดเหตุ ต้องนอนรักษาตัวนานถึง 3 เดือน ก่อนจะตัดสินใจเข้าร้องทุกข์กับนางปวีณา เพื่อให้ช่วยนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ผู้เสียหายเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเองถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ย ว่าช่วงปลายปี 2563 เธอได้เข้าทำงานเป็นแคดดี้ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ทำให้สามีวัย 36 ปี ที่อยู่กินกันมาจนมีลูกสาว 2 คน หึงหวงและเริ่มทำร้ายร่างกาย ทั้งตบตีและใช้อาวุธ สุดท้ายจึงเลิกรากันไป

จากนั้นเธอได้หันไปคบหากับชายวัย 53 ปี อีกคน ซึ่งทำงานที่เดียวกัน เธอยอมรับว่าชายดังกล่าวมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่ภรรยาของฝ่ายชายไม่รู้เรื่อง

ต่อมาสามีเก่าก็กลับมาราวีและข่มขู่ โดยไปบอกกับคนอื่นว่า “ถ้ากูไม่ได้ คนอื่นก็ไม่ได้ เจอที่ไหนจะยิงทิ้ง” นอกจากนั้นยังพยายามสะกดรอย และตามทำร้ายร่างกายรุนแรงถึงขั้นพยายามขับรถชนและข่มขู่เอาชีวิต

จึงทำให้เธอตั้งข้อสงสัยว่าเขาอาจมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ แต่หลังเกิดเหตุเขาก็ยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ล่าสุดนางปวีณา หงสกุล ได้ประสาน ไปยังผู้กำกับการ สภ.หนองปรือ โดยเตรียมลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของคดีและการสอบสวนผู้ต้องสงสัย รวมถึงช่วยเหลือเรื่องการรักษาพยาบาลและศัลยกรรมให้กับหญิงสาวด้วย