จนท.อุทยานฯ แม่ฮ่องสอน ลาดตระเวนเจอขบวนการลักลอบขนโคกระบือจากฝั่งเมียนมาเข้าราชอาณาจักร มูลค่ารวม 50 ล้าน ฟากชาวบ้านในพื้นที่เริ่มพบโรคระบาด พบมีการประชุมลับใช้เส้นบิ๊กเนมหลบเลี่ยงภาษี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จัดกำลังออกลาดตระเวน เพื่อรักษาพรรณไม้และสัตว์ป่า ( สมาร์ตพาโทรล ) บริเวณแนวชายแดน พื้นที่บ้านดอยคู ปุงยาม ห้วยส้านใน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ขณะออกลาดตระเวนได้ตรวจพบการลักลอบนำโคและกระบือจากบ้านหัวเมืองในเขตเมียนมา เข้ามาในไทย ผ่านช่องทาง บ้านดอยคู ช่องทางบ้านปุงยาม และบ้านห้วยส้านใน เขตพื้นที่ ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นจำนวนมาก โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบหรือจับกุมการนำเข้าโคและกระบือที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยพบว่ามีการต้อนโคและกระบือ มาพักไว้ที่ บ้านทุ่งสี่สิบ และ บ้านไม้ซางหนาม ขณะที่ราษฎรบ้านห้วยส้านใน แจ้งว่าพบโคและกระบือในหมู่บ้านเริ่มป่วยเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยเป็นจำนวนมากเช่นกัน ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงโคและกระบือในไทยแล้ว

กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2565 มีกลุ่มนักธุรกิจค้าโคและกระบือ ประชุมลับในพื้นที่แห่งหนึ่งของ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เรื่องการเตรียมส่งออกโคและกระบือ จากพื้นที่ ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า ไปยัง จ.เชียงใหม่ โดยใช้เส้นสายระดับสูงในกระทรวงหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร ว่าจะไม่ยอมเสียภาษีให้กับศุลกากร อ้างว่าเคลียร์กับเจ้านายในกรมที่เกี่ยวกับสัตว์แล้ว ซึ่งจะลำเลียงโคและกระบือ จำนวน 2,000 กว่าตัว ที่นำเข้าจากเมียนมาและมาพักไว้ที่ บ้านป่าโหล บ้านซอแบะ บ้านปางคอง และบ้านปุงยาม ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า โดยใช้เส้นทาง สายแม่ฮ่องสอน - ปาย - เชียงใหม่ และ เส้นทางสาย แม่ฮ่องสอน - ขุนยวม - อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นอกจากโคและกระบือที่ลอบนำเข้ามาในไทยจำนวนกว่า 2,000 ตัวแล้ว ยังมีโคและกระบือ อีกจำนวน 200 ตัว ซึ่งอยู่ที่บ้านหนองแดง ตรงข้ามฐานที่มั่นของทหารไทย ฐานดอยหลักแต่ง ที่เตรียมลำเลียงเข้ามาสมทบในเร็ว ๆ นี้

ขณะที่พ่อค้าโคและกระบือชาวไทย รายหนึ่งระบุว่า การนำเข้าโคและกระบือ ตามหลักการในช่วงนี้จะไม่สามารถนำเข้าได้อย่างเด็ดขาด เพราะมีราชกิจจาของ กรมปศุสัตว์ในการห้ามนำเข้าสัตว์จากประเทศเมียนมา เนื่องจากเกรงจะมีการนำเชื้อโรคลัมปีสกินจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาระบาดในไทย แต่ก็พบว่า มีกลุ่มพ่อค้าอีกหลายกลุ่ม ที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการได้โดยต้องจ่ายค่าเคลียร์ต่อตัว ตัวละ 2,400 บาท ขณะที่ต้นทุนโคและกระบือในเมียนมา ตกตัวละ 23,000 - 25,000 บาท โคและกระบือจำนวน 2,000 ตัว คิดเป็นเงิน 50,000,000 บาท ค่าเคลียร์ตัวละ 2,400 บาท คิดเป็นเงิน 4,800,000 บาท ทำให้มีคนกล้ากระทำผิด โดยไม่หวั่นว่า จะนำเชื้อโรคจากนอกประเทศมาปล่อยในไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2565 นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมการพิจารณาการตรวจประเมินคอกกักสัตว์ และระบบเพื่อการนำเข้าราชอาณาจักร ซึ่งโค กระบือ จากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผ่านจุดผ่อนปรนทั้ง 5 จุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีนายพนม มีศิริพันธุ์ ปศุสัตว์เขต 5 พร้อมด้วย นายอนิรุธ เนื่องเม็ก ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้แทนจากสำนักควบคุมและบำบัดโรคสัตว์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยการประชุมฯ ดังกล่าว เป็นการหาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการค้าสัตว์เพื่อการนำเข้าตามแนวชายแดน และกระตุ้นการค้าการลงทุน รวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเตรียมความพร้อมรองรับการอนุญาตให้นำเข้าหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งโค กระบือจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผ่านจุดผ่อนปรนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน