การแข่งขันกีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ครั้งที่ 2 ที่สงขลา เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 เป็นการแข่งขันวันที่ 8  “บ่าวไข่เจียว” เอกพล สุขทอง แชมป์โลก ปี 2019 คว้าแชมป์แอธเลติคฟิสิคชาย อายุ 35-49 ปีไปครอง ในเพาะกาย กีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ส่วนคุณแม่ ภริตพร แสงมณีกุลวัฒน์ วัย 60 ปี ชาวพัทลุงรับรางวัลดีเด่นหญิง

    เพาะกาย ชิง 9 ทอง ที่ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่

      แอธเลติคฟิสิคชาย อายุ 35-49 ปี “บ่าวไข่เจียว” เอกพล สุขทอง แชมป์โลก ปี 2019 คว้าแชมป์ไปครอง ที่ 2 ไพรัช พะเนาว์ศรี ที่ 3 สุวัฒน์ จันทร

     “บ่าวไข่เจียว” เอกพล สุขทอง เปิดใจว่า “ด้วยความที่ผมเป็นคนใต้ พอมาแข่งที่นี่รู้สึกอุ่นใจและสบายใจ เหมือนแข่งที่บ้าน ครั้งก่อนแข่ง “ไทยแลนด์ มาสเตอร์เกมส์” ได้ที่ 2 มาครั้งนี้ ได้แชมป์รู้สึกดีใจมากๆ หลังจากนี้จะเตรียมตัวเพื่อแข่งขันซีเกมส์ ที่เวียดนาม จะขอทำผลงานให้ดีที่สุด”

      แอธเลติคฟิสิคชาย อายุต่ำกว่า 35 ปี รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม. ที่ 1 สิปปกร สารอักษร ที่ 2 ชัยวุฒิ สืบศักดิ์ ที่ 3 ทศพร ศรีคล้ำ

      แอธเลติคฟิสิคชาย อายุต่ำกว่า 35 ปี รุ่นความสูงเกิน 170 ซม. ที่ 1 ธนวุฒิ ชัยชนะ ที่ 2 อุรุพงษ์ วงศ์อารีราษฎร์ ที่ 3 วันธิกรณ์ ชมกลิ่น

      แอธเลติคฟิสิคชาย อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ 1 สุดชาย พลอยประดับ ที่ 2 ประธาน คงแนวดี ที่ 3 ประวิตร โพธิ์ทอง

    โมเดลฟิสิคหญิง อายุต่ำกว่า 35 ปี ที่ 1 ยุพาพร สืบสวน ที่ 2 ศิเนตร กิ้มเล้ง ที่ 3 สุวิมล พันธ์ชนะ ในรุ่นนี้มีนักกีฬาต่างชาติ นาตาชา หลุยส์ มานน์ จากสกอตแลนด์ ลูกศิษย์ของ “บ่าวไข่เจียว” เอกพล สุขทอง ได้ที่ 4

      โมเดลฟิสิคหญิง อายุ 35-49 ปี ที่ 1 บุญลึก สงวนลิขิตกุล ที่ 2 กนกวรรณ โฆรวิส ที่ 3 วิลาสินี โฆษิตชัยวัฒน์

      โมเดลฟิสิคหญิง อายุ 50 ปี ขึ้นไป ที่ 1 จิตตวดี จักษุชีวินนิมิต ที่ 2 ชนัญธิดา หลู ที่ 3 ภานุชนาฏ ค้าแวน

      แอธเลติคฟิสิคหญิง อายุต่ำกว่า 45 ปี ที่ 1 กนกวรรณ โฆรวิส ที่ 2 บุญลึก สงวนลิขิตกุล ที่ 3 ยุพาพร สืบสวน

      แอธเลติคฟิสิคหญิง อายุ 45 ปีขึ้นไป ที่ 1 ภานุชนาฎ ค้าแวน ที่ 2 ชนัญธิดา หลู ที่ 3 จิตตวดี จักษุชีวินนิมิต

   ส่วนรางวัลดีเด่นหญิง ภริตพร แสงมณีกุลวัฒน์ วัย 60 ปี คุณแม่ “บ่าวไข่เจียว” เอกพล สุขทอง จากพัทลุง

    เซปักตระกร้อ ชิง 3 ทอง แข่งแบบพบกันหมด ที่สนามกีฬาจิระนคร หาดใหญ่ จ.สงขลา ประเภททีมเดี่ยว รุ่นอายุ 40-45 ปี แชมป์ เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่นอายุ 46 - 50 ปีหาดใหญ่บ้านรีโมท เอ อายุ 51 ปีขึ้นไป เกาะเสือ เอ นักกีฬายอดเยี่ยม อายุ 51 ปี ขึ้นไป ได้แก่ อำนวย  อารีสุข (เกาะเสือ เอ) อายุ 46 - 50 ปี ฉลองรัฐ  เทพนวล (หาดใหญ่บ้านรีโมท เอ)

    นายธนวัฒน์ ประสงค์เจริญ เลขาธิการสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า สำหรับกีฬาตะกร้อผู้สูงอายุจะเน้นการเล่นเพื่อความสนุกและทำให้ร่างกายแข็งแรงมากกว่าความเป็นเลิศ เสียดายที่แข่งในข่วงโควิด-19 ทำให้ชาวต่างชาติมาแข่งไม่ได้ เช่นทีมจากมาเลเซีย

    ลีลาศ ชิง 26 ทอง ที่หอประชุมเทศบาลนครเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ประเภทลาตินอเมริกัน  อายุ 65 ปีขึ้นไป วิโรจน์ เพชรรัตน์ - สุนันทา ตั้นกี่ จากตรัง คว้า 2 ทอง จากคลาสอี (ชะชะช่า) คลาสดี (ซี แอนด์ อาร์) ส่วนวิรัตน์ วาณิชอุปถัมภ์ -สุจีรา พลพงษ์ จากสงขลา ได้ 2 ทอง จาก ซิงเกิ้ลแดนซ์ชะชะช่า และซิงเกิ้ลแดนซ์รุมบ้า

      ประเภทสแตนดาร์ด มาสเตอร์ รุ่นอายุ 35-44 ปี คลาสบี แข่งขัน 4 จังหวะบังคับ ประกอบด้วย วอลซ์, แทงโก้, สโลว์ ฟอกซ์ทรอท และ ควิกสเต็ป ปรากฏว่า เป็นคู่ของ มานิตย์ เพิ่มผาสุข และ กนกลักษณ์ จีรวงศ์สุจทร จากกรุงเทพมหานคร ที่โชว์ลีลาการออกสเต็ปเข้าตากรรมการ คว้าเหรียญทองไปครอง

      ส่วนในรายการ สแตนดาร์ด มาสเตอร์ รุ่นอายุ 70 ปีขึ้นไป เต้นกันในจังหวะแทงโก้ เหรียญทองเป็นของ เนตร เหล็กขนาย และ วิภารัตน์ เหล่าตระกูลงาม จากกรุงเทพฯ

    ปิดท้ายกันที่รายการ สแตนดาร์ด มาสเตอร์ รุ่นอายุระหว่าง 55-64 แข่งขันในจังหวะแทงโก้ แชมป์เป็นของ สุรชัย กฤษณะปิยะวรรณ และ ปรานอม ตันติกาญจน์ จากนครราชสีมา

    แบดมินตัน ชิง 10 ทอง ที่ สนามแบดมินตัน ชั้น 3 อาคารกีฬาและนันทนาการ ม.สงขลาฯ คู่ที่เป็นไฮไลท์คือ ชายคู่ รุ่นอายุ 40 ปี ขึ้นไป บี รอบรองชนะเลิศ

    “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดการดาราชื่อดัง วัย 48 ปี ลงแข่งขันเป็นปีแรก จับคู่กับ “ออม” อิทธิกร ปัญญางาม นักกีฬาแชมป์โลกคนหูหนวก ประเภทขายคู่ จากทีมพี่เอ แพ้ ขจรศักดิ์ ณ สงขลา - มฆวาน เสริมดำรงศักดิ์ จากทีพี 12 แบดมินตันทีม 12-21, 16-21 ได้เหรียญทองแดง

    กระดานยืนพาย ที่หาดสมิหลา เป็นกีฬาสาธิต โดยเดิมจะแข่งขันที่ บริเวณหาดชลาทัศน์ แต่ด้วยสภาพคลื่นลมที่แรงในช่วงนี้ ทำให้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันย้ายมาแข่งที่หาดสมิหลาแทน

      ไฮไลต์อยู่ที่รายการ เทคนิคอล เรส ระยะ 5 กิโลเมตร โดยผู้ที่ทำเวลาได้ดีที่สุดคือ ศักดิ์ดา วันยาเล ฝีพายเจ้าถิ่น ดีกรีทีมชาติไทย ที่ลงแข่งในรุ่นอายุ 40-44 ปีชาย  โดยทำเวลาได้ 45.05 นาที คว้าแชมป์ไปครอง

      ส่วนในรุ่นอายุ 35-39 ปีชาย แชมป์เป็นของ อานนท์ นาคประสิทธิ์ ทำเวลาได้ 48.39 นาที

      ขณะที่ในรุ่นอายุ 45-49 ปีหญิง ซึ่งมี “แพท” พุทธรักษา นีกรี อดีตนักกีฬาเรือกรรเชียงทีมชาติไทย ลงแข่งในรายการนี้ด้วย และก็สามารถคว้าเหรียญทองไปครอง ด้วยเวลา 57.55 นาที

      “แพท” พุทธรักษา นีกรี เปิดใจว่า มาเล่นกีฬานี้ได้ 1 ปี หลังจากอำลาทีมชาติเรือกรรเชียง ตั้งใจแข่งไปเรื่อยๆ ชอบกีฬาชนิดนี้ เพราะทำให้ กล้ามเนื้อขาแข็งแรง มีสมาธิเพราะจดจ่อกับการยืนพายบนกระดาน

     โดยนักกีฬาที่มีอายุมากที่สุดก็คือ คุณตาบุญชัย จันทรบูลย์ ของเจ้าภาพสงขลาในวัย 73 ปี  คว้าแชมป์ เทคนิคอลสปรินท์ 200 เมตร รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปชาย

      คุณตาบุญชัย กล่าวว่า สมัยก่อนเป็นนักกีฬาจักรยาน แต่ตอนนี้อยากเล่นกีฬาที่ท้าทายก็เลยมาเริ่มหัดเล่นกระดานยืนพาย ซึ่งพอมาเล่นแล้วก็รู้สึกชื่นชอบ และอยากจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ แลดีใจมากที่ได้ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

     ด้าน ชนินทร์ อัยรักษ์ นายกสมาคมกีฬากระดานโต้คลื่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับกีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาน้องใหม่ แต่คนสนใจมาเล่นกันมาก โดยเฉพาะนักกีฬาไตรกีฬา จักรยาน ทำให้ได้สัมผัสความแปลกใหม่ของกีฬาที่สนุกไม่แพ้กีฬาอื่น ๆ และทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง